วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

:: ง่ ว ง ::

.

.

ง่วงนอน .....

อิห้องข้าง ๆ เมื่อคืน

ลั้นลาปาร์ตี้แหกปากกันดังทะลุกำแพงมาห้องผม

หนกขู .. นอนไม่ได้

ลุกขึ้นมาเปิดไฟ ... เดินงุ่นง่านกัน 2 คนกะอ้วน

ซักพักมันเงียบกันไปเอง .. ถึงได้ปิดไฟนอน

ตาสว่างอีก ... นอนไม่หลับอีก

เช้าวันนี้ก็เลยตื่นมาแบบ .. ไม่สดใส (เอาซะเลย)

ง่วง .. ทื่อ ... อื้อ .. หลวม ... แสบตา

แมร่ง .... กำ จัง กู (คล้าย ๆ แด จัง กึม) .... __"__

.

.

.

นั่งหาวมาตั้งกะเช้า

กินกาแฟก็ไม่ได้อีก .... แพ้

เอ็มก็ใจสั่น ... เลยกินไมโลแทน

ง่วงหนักเข้าไปอีก ..... ฮ้าวววว

ช่วงนี้เขียนไรเรื่อยเปื่อยก็ไม่รู้

ตัวเองอ่านยังไม่ค่อยรู้เรื่อง

แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าครั้งหน้า

จะเริ่มเขียนอะไรที่มีสาระมั่งละนะ

อุตส่าห์ได้เิกิดเป็นคน ... อย่าเห็นแก่ตัวกันนัก

หัดทำอะไรเพื่อคนอื่นซะบ้าง

^^

.

.

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2552

.....

.

.

เฮ้อ .....

ท้อหว่ะ ...

เริ่มท้ออีกแระ ....

นี่เรากำลังหลอกตัวเองอยู่รึป่าววะ ?

ทำไม ไม่ว่าจะทำอะไรออกมา

มันไม่ดีัซักที ไม่ถูกใจใครซักอย่าง

แบบนี้ ... จะไปทำมาหาแดรกไรได้วะเนี่ย ....

ไปหาควายเลี้ยงดีกว่ามั้งกู !

.

.

.

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552

:: เ จ็ บ เ จ็ บ::

.

.

เจ็บ ๆ ...

เ จ็ บ ทั้ ง ตั ว .. เ จ็ บ ทั้ ง ใ จ

เกิดเป็นคนทั้งที .. ทำไมถึง " โ ง่ " ได้ขนาดนี้

โง่ ... จริง ๆ

เป็นความ " โง่ " ..... เฉพาะตัว

ส่วนบุคคลห้ามเลียนแบบ

เรื่องมันเกิดขึ้น .. เมื่อบ่ายวันนี้

ขณะที่ทุ่มสมาธิทั้งตัว .. อยู่กับงาน 1 ชิ้นถ้วน

ชนิดที่ปลายจมูกกับ monitor ห่างกันแค่ 2 มิล

ยกทั้งตัวขึ้นมายอง ๆ อยู่บนเก้าอี้ เขย่งปลายนิ้วเท้า

ศอกแนบลำตัว ... ซ้ายพาดคีย์บอร์ด ขวาจิกเมาส์

กลั้นลมหายใจสุดไส้ติ่ง ..

90% .....

91% .......

93% .........

.

.

.

.

.

98% ..................

99% ..............................

100% .............. สำเร็จ !!!!!

ความภาคภูมิใจถาโถมเข้าสู่จิตใจ

ไส้ติ่งคลายตัว ... ทุกอย่างจบลงแล้ว .....

ถอนปลายจมูกจากหน้าจอ ..

แขนซ้ายละจากคีย์บอร์ด บรรจงวางที่ต้นคอบีบนวด

มือขวาปล่อยเมาส์ ..... เสยผมรุงรักที่ยาวปิดหน้าผาก

ร่างกายผ่อนคลาย ... ยืดขาลงจากเก้าอี้

ขณะเดียวกับที่ทิ้งตัวลงบนพนักเก้าอี้แบบสละแล้วทุกสิ่ง

ทันใดนั้น .. ก็รู้ตัวว่าทำพลาดครั้งมโหฬาร

พนักเก้าอี้ ..... ห า ย ไ ป !!!!!

ไม่ทันแล้ว ..... วืด ! โป๊ก !! โคร่ม !!!!

.

.

ในท่ายองที่กำลังยืดขาลงจากเก้าอี้

เพียงเสี้ยววินาทีที่ทิ้งตัวลง .....

ตูดยกจากพื้นเป็นมุม 47 องศา ลิปดาเหนือ

ขาซ้ายเกี่ยวลิ้นชักที่เสือกอ้าไว้พอดี ...

มือและขาขวาที่เกร็งเหนี่ยวสุดแรงเกิด ยังคาอยู่บนเก้าอี้

สัญชาตญานที่บอกให้เอามือซ้ายยันพื้นกันหน้ากระแทก ....

แต่แม่งดันถึงพื้นหลังส่วนอื่นทั้งหมด ...

ส่งผลให้กกหูซ้ายเลยไปฟาดกะขอบถังขยะหลังเก้าอี้เต็ม ๆ

ไม่นับเฮดเซตกับสายสมอลทอล์กที่พันคอระโยงระยาง

ถึงพื้นอย่าง งง ๆ ..... เกิดอะไรขึ้นกับกูเนี่ย ?

กว่าจะตั้งสติได้ ... เส้นยึดไป 1/4 ของร่างกาย

.

.

ค่อย ๆ จัดระบบอวัยวะร่างกายให้เข้าที่

จริง ๆ แล้ว ..... พนักเก้าอี้ไม่ได้หายไปไหน

มันแค่หมุนไปอยู่ข้าง ๆ เท่านั้นเอง

แล้วคนที่หมุนมันไปไว้ข้าง ๆ ... ก็กูนี่เอง

เจ็บตัว ..... กระทบพื้นครบทุกส่วน

เจ็บใจ ..... โง่ ชิ หาย ... ทำตัวเอง

เฮ้อ .....

เฮ้อ .......

เฮ้อ .........

.

.

.

เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง

__"__

.

.

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

:: ขอโทษ ... ผมผิดเอง ::

.

.

ประมาณ 11 นาฬิกาแก่ ๆ ของวันนี้

(((( ตะรุ๊ด ตุ๊ด ๆ ๆ ๆ ))))) ...

(((( ตะรุ๊ด ตุ๊ด ๆ ๆ ๆ ))))) .....

ผม : สวัสดีค่ะ

มัน : น้องคะ รบกวนขอใบ PO ก่อนเที่ยงนะคะ

ผม : (( งง )) ... PO อันไหนคับ ?

มัน : ก็ PO ของที่พี่สั่งไปเมื่อวานไงคะ

ผม : โอไม่ได้รับเรื่อง ถ้ายังไงขอเช็คก่อนได้มั้ยคับ ?

มัน : มันไม่ทันแล้วอะค่ะขอก่อนเที่ยงนะคะ

ผม : แต่โอยังไม่ได้รับเรื่อง PO ซักใบเลยนะคับ

มัน : ไม่รับได้ยังไงก็เอาไปให้เมื่อวาน

ผม : ไม่มีจริง ๆ คับ ... พี่ติดต่อไว้กับใครอะ ?

มัน : พี่ ..... สั่งซื้อค่ะ

ผม : อืม ... ตรงนี้ มัลติอาร์ทคับ

มัน : อ้าว ..... แต่พี่โทรไม่ผิดนะพี่กดเบอร์สั่งซื้อ แล้วทำไมน้องมารับคะ

ผม : อืม ... งั้นโอคงรับโทรศัพท์ผิดเองล่ะ ขอโทษคับ

มัน : .... ตุ๊บ ... ตู๊ด ๆ ๆ ๆ ....

ผม : ..................................... __"__

.

.

.

ตกลงว่า .. กู ผิด ?

หน้าเมือกเอ๊ย !

__"__

.

.


วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552

:: เ กื อ บ ::

.

.

เกือบไม่ได้อัพบล็อคที่นี่ถาวรซะแล้ว

.....

ไม่เกี่ยวกะ ไอที งี่เง่าที่มันพยายามบล็อคทุกเวบที่ผมเข้า

แต่เพราะดันทะลึ่งอยากเปลี่ยน Theme ขึ้นมา

โดยไม่เช็คผลลัพธ์ให้ดีซะก่อน

ไอ้ Theme อันนี้ .....

พอเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อย

ดูว่ามันโอเคและ .. ตัวหนังสือไม่เพี้ยน

เมนูไม่เบี้ยว .... มันเสียอย่างเดียว

ไอ้ theme สวย ๆ อันนี้เนี่ยนะ ....... มันหาที่ log in ไม่เจอ !!!

ตายห่า ... log out แล้วด้วย

จะเข้าไปแก้ไขยังไงวะเนี่ย

แล้วกุจะอัพบล็อคยังไง ..

ใช้ความพยายามจนหมดกีบ ... ก็หาไม่เจอ

ทำยังไง .. ก็เข้าไม่ได้ .....

หมดปัญญาและ ... เข้าของกุไม่ได้

เข้าของคนอื่นแทนก็ได้วะ ..... __"__

แฮร์รี่ พอตเตอร์โปรด ... ช่อง log in

แม่งงอกออกมาทันทีที่เปิดหน้าบล็อคที่ไม่ใช่ของตัวเอง

เอากะมันดิ ... แสรดดดดดดด

.

.

หมดไป 1 เรื่องบ่น .....

เมื่อวานหิ้วไอ้อ้วนไปดู New Moon มา

ในเมเจอร์เหมือนขั้วโลกใต้ ... หนาวไปถึงขนจมูก ....

นั่งขดกันเป็นลูกกลม ๆ 2 ก้อนอยู่บนเก้าอี้

ดูแบบมึน ๆ เพราะจำภาคแรกไม่ได้แล้ว

หนังสือก็ไม่เคยอ่าน .. มันหนาจัด เห็นแล้วท้อ

ตอนเดินออกมายัง งง ๆ ... จบแล้วเหรอ ?

เค้าตัดหนังให้สั้นลงสำหรับวันพุธที่คิดค่าตั๋ว 60 รึเปล่าวะ ?

รายละเอียดในเรื่องไม่ค่อยมีเท่าไหร่

นอกซะจากว่า .... เสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังเป็นระยะ ๆ

พระเอกเดินหน้าซีดสะท้อนแสงออกมา ... กรี๊ดดดดดดด

พี่มนุษย์หมาป่า เดินล่ำใส่กุงเกงตัวเดียวออกมา .... กรี๊ดดดดดด

ตกลง .... กุดูหนัง รึ คอนเสิร์ตพี่บี้วะเนี่ย ?

.

.

.

อากาศร้อนมั่ง หนาวมั่ง

ทำให้เพื่อน ๆ ที่ออฟฟิศเป็นไข้ไปตาม ๆ กัน

ระวังตัวเองเต็มที่ .. ช่วงนี้งานเยอะ

ห้ามเหนื่อย ห้ามป่วย ห้ามสาย ห้ามตาย ห้าม ๆ ๆ ๆ

เพื่ออนาค๊ตตตตต !!! ^^

.

.



วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

:: โอ ซิ โม่ มา แว๊ ::

.

.

กลับมาแล้ว ...

กลับมาแล้ว .....

กลับมาแว๊วววววว

จริง ๆ ไม่ได้ไปไหนเลยตะหาก __"__

แต่ไปจมอยู่หน้า Facebook เข้าคับ

ติดเกมส์งอมแงม ..

เสพกัน 8 เวลาหลังอาหารเลยทีเดียว

ถึงขั้นรวมตัวกับเพื่อนร่วมงาน

ก่อตั้งชุมนุมความร่วมมือ เปิดกิจการเป็นล่ำเป็นสัน

แต่ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอนคับ

ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา

ในที่สุด .. องค์กรของเราก็มีอันต้องล้มเลิก

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย

ข้าวยากหมากแพง ... เลเวลอัพยาก โกงตังค์ไม่ได้

จนสภาพการณ์ที่เลวร้ายถึงที่ขีดสุด ..

มันบล็อคคับ ... IT ที่บริษัทมันบล็อค FB

มันกระทำการอุกอาจ ปราศจากความปราณี

ต่อไปนี้กิจการของพวกเราคงต้องถูกทิ้งร้าง

ใครจะคอยดูแลร้านอาหาร ตู้ปลาคงสกปรกรกรุงรัง

ไหนจะพืชผักสวนครัวอีกเล่า ..... T T

พนักงานตัวดำ ๆ อย่างพวกเราจะไปมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรได้

... ความยุติธรรม ..... อยู่ที่ไหน ???

.

.

.

อิอิ

นั่นแหละ ๆ ถึงได้กลับมาตายรังที่บล็อค

5 5 5 5 5 5 5 5 5 +

ฟังดูดีมีเหตุผลเนาะ

^_________^

ก็ทำงานมันเครียดนี่นา

ขอมีเวลาผ่อนคลายนิด ๆ หน่อย ๆ

จะได้มีแรงสู้งาน สู้คน สู้ปัญหา

อีกอาทิตย์เดียวก็จะทำตรงนี้ครบ 3 เดือนและ

สนุกดี .. แต่ยังโง่อยู่

ขอเวลาให้ผมฝึกอีกนิดนะ

จะฉลาดให้ดู ..... ^^

.

.

.

อากาศเย็นขึ้นทุกวัน

รักษาสุขภาพด้วยนะคับ

.

.



วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

:: ห ล า ย ::

.

.

เอ้อ ...

พอแตะนิ้วลงคีย์บอร์ดปุ๊บ

ทุกสิ่งอันพลันสลายจากสมองโดยสิ้นเชิง

เมื่อกี๊ .. คิดอะไรไว้วะ .. ลืม

จะเขียนเรื่องอะไรเนี่ย ... ลืม

.

.

.


.

.

.

.

(หายไป 8 นาทีครึ่ง )

อ๋อ ... จะเขียน เรื่อง เหี้ย ๆ

เมื่อวันก่อนได้สัจจธรรมมาจากบล็อค exteen โดย คุณวิชัย

จำรายละเอียดยิบไม่ได้ .. จำได้คร่าว ๆ พี่เค้าพูดว่า

เรื่องเหี้ย ๆ ที่เกิดขึ้น ... เราเท่านั้นที่จะจัดการกับมันได้

การเล่าให้คนฟังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เราแค่อยากระบายเท่านั้น

แต่ระบายไปก็ไม่มีไรดีขึ้น .. เรื่องเหี้ย ๆ ไม่มีวันสิ้นสุด

ถ้าเรายังไม่ออกมาจากจุดนั้น ...

อาทิตย์หน้า ..

กุกะลังจะไปจาก(บาง)เรื่องเหี้ย ๆ (บาง)หนังหน้าเหี้ย ๆ แล้วล่ะ

เพราะฉะนั้น ... ไม่ระบายแล้วกัน

จบ .. 1 เรื่อง

ปล. ขอบคุณ ตะคริว ณ นิ่วใจ สอนให้ผมเข้าใจ

แปลก ไม่ได้หมายความว่า ไม่เข้าท่า

และคนบ้าหายใจได้ทุกละติจูดบนดาวเคราะห์ดวงนี้

.

.

.

เขียนเรื่องประเทืองอารมณ์ดีก่า

อาทิตย์หน้าจะได้ย้ายแล้ว

ย้ายสายงาน ย้ายตำแหน่ง แต่บริษัทเดิม

เพิ่งรู้ตอนที่เก็บโน่นเก็บนี่ว่า

ไอ้จิปาถะเนี่ยเยอะมากกกกกก ..

ไม่รุ้แมร่งมาจากไหน

จำได้ว่าตอนมา ... ไม่มีไรเลย

นอกจาก ดินสอ ปากกา และเครื่องคิดเลข

ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะขึ้น ๆ .. เก็บทิ้งมั่งได้มั้ยเนี่ย

ช่วงนี้จะไม่เจอคำทักทายอะไรเลยนอกจาก

" ย้ายวันไหน " " จะไปแล้วเหรอ " " กลับมาเยี่ยมบ้างนะ "


.......

ดูอบอุ่นดีเนอะ .. แต่แค่ย้ายไปอีกมุมในห้องเดิมเอง __"__

คงคิดถึงหัวหน้าน่าดู ...

ถ้าไม่มีพี่ .. คงไม่มีใครถีบโอให้เดินหน้ากว่าตอนนี้

" ข อ บ คุ ณ คั บ "

ไม่กล้าไปพูดกะแกตรง ๆ .. เขิน

ย้ายไปแต่ก็ยังเดินไปเดินมากวนตีนพี่แกได้อยู่

ดีใจล่ะที่ไม่ต้องวุ่นวายกับกองเอกสาร

ได้ทำงานที่เราถนัดกว่า ... แล้วก็ชอบด้วย

ท้าทายนิดนึง .. เพราะไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อนเลย

เคยแต่ทำเล่น ๆ กะป๋องไปเรื่อย

ได้ลงมือจริง ๆ จัง ๆ เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว

รู้สึกภูมิใจดีพิลึก ... สู้เค้า โอ ซิ โม่ !!

.

.

ยังมีอีก

ช่วงนี้เป็นไรไม่รุ้ ... หงุดหงิด

เพราะอะไร ๆ มันก็ไม่ได้อย่างใจมั้ง

ความกลัว .. มันไม่เข้าใครออกใคร

อดีตที่เลวร้ายมันลืมกันได้นะถ้าไม่มีอะไรมาสะกิด

พยายามแล้วใช้ธรรมะเข้ามาข่มใจ ... ก็ดีขึ้นหน่อยนึง

แต่ไม่วาย .. ลืมตัวเมื่อไหร่ ก็เผลอคิดจนได้

1 เรื่อง 2 เรื่อง 3 เรื่อง ... แม่งก็วนเวียนกะกูอยู่นั่น

เหนื่อยแล้ว .. ไม่อยากสู้กับความรู้สึกบ้าบอนี่อีกแล้ว

ถ้าบอกว่า ... ขี้ กับ น้ำตา .. มันออกมาจากคนละรู


แต่เหมือนกันตรงไหน รู้มั้ย ..... มันเหมือนกันตรงที่

เวลายิ่งกลั้น .. มันก็ยิ่งจะไหลออกมาให้ได้

.

.

.

จบดีนี่กู ? ..... เฮ่อ ...

.

.

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

:: ลู ก เ ล ว ๆ แ ล ะ แ ม่ ::

.

.

2 วันนี้ขยันวุ้ย ... อัพบล็อคทุกวัน

ความจริงเซิร์ฟเวอร์ที่บริษัทเจ๊ง ... ดึงยอดขายไม่ได้

ดีแต่เดินไป เดินมาเป็น messenger

เหมือนจะ ... ว่ า ง ง ง ง ง ง

แต่เมื่อไหร่ที่ทุกอย่างกลับเป็นปกติ

งานประมาณแสนแปดที่ต้องอั้นไว้ก่อนหน้านี้

มันก็จะทะลักทะล้นพรั่งพรูออกมาในคราวเดียว

งานทุกงานจะต้องได้รับคำตอบว่า

" กูจะทำทุกอย่างได้หมดภายในชั่วโมงนี้คับ "

เตรียมตัวตายได้ โ อ ซิ โ ม่ ..

.

.

.

บทความต่อไปนี้เอามาจาก Forward Mail นะคับ

ไม่รู้ใครเขียน .. แต่กระแทกจิตสำนึกได้ดี

อ่านเถอะนะคับ ไม่เสียเวลานั่งนินทาเท่าไหร่หรอก

.

.

ฉันเดินชนคนแปลกหน้า

ฉันเอ่ยขอโทษ ... ไม่ตั้งใจ

เขาตอบกลับด้วยความสุขภาพ

ขออภัย .. ผมไม่ทันเห็นคุณ

เราต่างสุภาพ ถ้อยทีถ้อยอาศัย

แสดงน้ำใจ ... แม้ไม่รู้จักกัน

ที่บ้าน .. เย็นวันนั้น

ขณะที่ฉันสาละวนวุ่นวายกับภาชนะต่าง ๆ

เตรียมอาหารมื้อเย็นสำหรับครอบครัว

ไม่รู้ตัว และไม่ทันระวัง

ฉันหันกลับมาชนลูกสาวตัวน้อยที่แอบมายืนด้านหลัง

มันแรงจนทำให้เธอล้มลงกระแทกพื้น

" อย่ามายืนเกะกะ " .. ฉันตวาดใส่

ลูกสาวเดินจากไป ... หัวใจเธอปวดร้าว

กว่าที่ฉันจะรู้ตัว .. ว่าทำอะไรลงไป

ก็เมื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวตอนกลางวัน

ฉันได้ยินเสียงกระซิบตำหนิจากเบื้องลึกของหัวใจ

กับคนแปลกหน้า เจ้าสุภาพอ่อนน้อมได้

แต่ลูกรักชิดใกล้ ทำไมทำได้ลงคอ

ดูที่พื้นครัวสิ ..

ดอกไม้หลากสีกระจายเกลื่อนกลาด

ลูกอุตส่าห์ลำบากเก็บมาหวังให้เจ้าแปลกใจ

น้ำตาลูกไหล ... เหตุใดแม่ไม่เห็น

ฉันเพิ่งรู้สึก ..

จึงค่อยย่องไปคุกเข่าข้างเตียงลูก

"ตื่นเถิดคนดี .. ดอกไม้นี่ลูกเก็บมาให้แม่หรือ"

ลูกตอบ "ใช่ค่ะ หนูเห็นดอกไม้บาน สวยงามเหมือนคุณแม่"

"หนูรู้ว่าแม่ต้องชอบ โดยเฉพาะดอกสีน้ำเงิน"

ฉันตื้นตันใจนัก ... น้ำตาไหลไม่รู้ตัว

"ลูกรัก แม่ขอโทษจริง ๆ ที่เอ็ดหนู๋"

"แม่จ๋าไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่โกรธหรอก"

.. " เ พ ร า ะ ห นู รั ก แ ม่ " ..

.

.

.

หากเย็นวันนั้น .....

ลูกสาวเกิดวิ่งออกจากบ้านจนเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตไป

สิ่งที่เธอตวาดลูกจะเป็นคำสุดท้ายที่ฝังในจิตใจตลอดกาล

รู้ไหม คำว่า FAMILY ย่อมาจาก

Father And Mother I Love You

.

.

เพราะว่าตอนนี้ยังไม่สายเกินไป

ในการมอบความรักให้ขณะที่คน ๆ นั้นยังมีโอกาสรับรู้

ผมเชื่อว่าวันแม่นี้ ... ของขวัญที่มีค่าที่สุด

คือการกระทำที่แสดงถึง "ความรัก" จริง ๆ

ผมรู้ว่าแม่ไม่ต้องการของขวัญราคาแพง ไม่ต้องการเงิน

ไม่ต้องการดอกมะลิ ไม่ต้องการการ์ดกับข้อความซึ้ง ๆ

สิ่งใดในโลกก็ไม่เทียบเท่าความรักที่ลูก ๆ ตอบแทนด้วยหัวใจ

พรุ่งนี้วันแม่แล้วนะ ..

อีกไม่กี่ปีก็จะ 30 ขวบอยู่รอมร่อแล้ว

ยังไม่เคยสร้างความภูมิใจอะไรให้แม่เลยซักอย่าง

ยังเป็นลูกดื้อ รั้น หัวแข็ง .. แล้วก็เอาแต่ใจตัวเองตลอดมา

ยิ่งช่วงที่เป็นวัยรุ่น (แต่ตอนนี้ยังไม่แก่นะ)

ใช้ชีวิตเป็นเหี้ยซะมากกว่าที่จะเป็นคน

เรื่องร้ายแรงที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่

แม่บอกว่ารู้สึกแฟนลูก ... ไม่ได้รักลูกแม่ซักนิด

และแฟนในตอนนั้นก็เข้ากับแม่ไม่ได้เอาซะเลย

แม่ว่าแม่ไม่ชอบ และบอกให้เลิก .. ตามนิสัยตรงไปตรงมาของท่าน

ลูกไม่เชื่อ ... ทำใจไม่ได้ และคิดว่าแม่อคติ

เลยตัดสินใจ .. ออกจากบ้าน

แม่ร้องไห้แทบขาดใจ ในวันที่ลูกกำลังจะก้าวขาออกไป

แต่ก็ไม่สนใจ ... ลูกเสียใจ ลูกกำลังโกรธแม่

พอออกมาแล้ว ก็ใช้ชีวิตอย่างที่เคยต้องการ

ไม่มีกฎ ไม่มีเสียงบ่น ไม่โดนด่า

อยู่กับครอบครัวของแฟน ดูแลเค้า ดูแลทุกอย่าง

ดูแลไปถึง พ่อ แม่ ของแฟน ..

ทุกคนเห็นว่า เราเป็นเด็กดี .. เรียบร้อย

มีสัมมาคารวะ รู้จักดูแลคนโน้น ดูแลคนนี้

ยังทำหน้าภูมิใจ เวลามีคนบอกว่า

"ดูแลพ่อแม่แฟนดี ราวกับเป็นพ่อแม่ตัวเอง"

ไม่เคยหันมาคิด ยังไม่เคยสำนึก ... จนกระทั่งวันนึง

เมื่อแฟนเราเจอคนที่เค้ารักมากกว่า

พ่อ แม่ ของแฟน ที่เราเคยเอาใจอย่างดี ช่วยอะไรไม่ได้ซักนิด

ไม่ว่าหน้าไหน ก็บังคับให้ใครรักใครไม่ได้

เราเห็นคนอื่นดีกว่าพ่อแม่ .. สุดท้าย

คน ๆ นั้นก็เห็นคนอื่นดีกว่าเราเหมือนกัน

วันที่เดินออกจากบ้านเค้า .. เหมือนถูกถีบหัวส่ง

ไม่มีคำร่ำลา ไม่มีความอาลัย ไม่มีความผูกพัน

เดินออกมา อย่างไร้จุดหมาย

ซมซาน ลากตาปูด ๆ ที่ผ่านการร้องไห้ข้ามเดือน ... กลับมาหาแม่

สภาพของแม่ในวันที่ลูกถึงบ้าน

ยังร้องไห้แทบขาดใจ ต่างกันนิดหน่อยตรงที่

ภายใต้รอยน้ำตาแม่ มีรอยยิ้ม .....

.

.

.

ผ่านไปหลายปีแล้ว ..

แต่บทเรียนนั้นกลายเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต

ถึงแม่จะให้อภัย แล้วขอให้เริ่มใหม่

ความรู้สึกผิดมันก็ยังไม่หายไปอยู่ดี

จนถึงทุกวันนี้ ...

ที่ใคร ๆ คิดว่าผมเป็นคนดี .. มันไม่จริงซักนิด

ผมทำร้ายคน 3 คนที่รักผมมากที่สุด

คนที่ให้อภัยไม่ว่าจะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่ากี่หน

คนที่ไม่เคยเบื่อโทรศัพท์ที่โทรไปแล้วน้ำตาจุกปากพูดไม่ได้

ผมกรีดหัวใจคนที่โอบกอดผมทุกครั้งที่ผมแบกน้ำตาไปหาท่าน

ถ้าไม่มีแม่ ก็จะไม่มีลูกคนนี้

ถ้าแม่ไม่รัก ... ก็จะไม่มีใครรักเด็กที่ทำตัวเลว ๆ แบบนี้

ถ้าแม่ไม่คอยโอบกอด .. ลูกจะไม่มีวันรู้สึกถึงความอบอุ่นจากการถูกปกป้อง

ถ้าแม่ไม่สนับสนุน ... ลูกจะไม่มีวันรู้เลยว่า ดีเท่าไหร่

ที่เราหันกลับไปแล้ว .. เรามองเห็นพวกท่านยืนอยู่ข้างหลัง มองเราอยู่เสมอ

คิดมาตลอดว่าอยากทำอะไรเพื่อท่านบ้าง

แต่ไม่มีปัญญาทำมันสำเร็จซักอย่างเลยตอนนี้

ไม่มีหน้าจะบอกว่า รักแม่ อย่างโง้นอย่างงี้

เพราะไม่เคยทำให้ท่านรู้สึกได้ว่า ลูกคนนี้รักแม่ ซักหน

อายตัวเองที่สุดที่เมื่อก่อน ... เคยตั้งเงื่อนไขลม ๆ แล้ง ๆ ว่า

ถ้าหากจะมีแฟน คน ๆ นั้นต้องรักพ่อแม่เราก่อน

ทำไมถึงบอกว่ามันเป็นเงื่อนไขลม ๆ แล้ง ๆ

ก็ในเมื่อ .....

ลูกแท้ ๆ ยังไม่รักพ่อแม่ตัวเองเลย

แล้วจะหวัง ... ให้ลูกคนอื่นเค้ามารักได้ยังไง

.

.

เขียนบล็อควันนี้ น้ำตาไหลตลอดทาง อาจจะยาวไปหน่อยนะ

ความรู้สึกหลาย ๆ อย่างมากมายเกินกว่าจะเขียนลงไปได้หมด

เสียใจ เจ็บใจ อึดอัดใจ ... ทรมาน ทุกอย่าง

เสียดายเวลาที่ผ่านมา .. เสียดายที่มันเอากลับมารีไซเคิลไม่ได้อีก

พ่อแม่แก่ลงทุกวัน ๆ แต่ลูกคนนี้ก็ยังไม่เอาไหน

ไม่รู้เมื่อไหร่ .. จะทำให้พวกท่านยิ้มอย่างภูมิใจบ้าง

ทุกครั้งที่มอง ที่ได้ยินเสียงแม่ น้ำตามันจะไหล

แก่จนป่านนี้แล้ว .. ลูกยังตอบแทนอะไรไม่ได้เลยซักนิด

พรุ่งนี้บอกแม่ว่าจะกลับบ้าน ...

แต่รู้สึกว่าตัวเอง .. ไม่มีคุณค่าพอที่จะพูดว่ารักแม่

ไม่มีอะไรคู่ควรกับคำนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว .....

น่าทุเรศสิ้นดี้ ...

.

.

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

:: มี ลู ก ป ล า แ ล๊ ว ว ว ::

.

.

วันนี้พยายามแขม่วอารมณ์ดีดไว้สุดไส้ติ่ง

ขอซักวันที่ไม่มีเรื่องขุ่นข้องหมองตับได้แมะ ?

ไม่อะไรก็ต้องอะไรสักก้อนนึง

ห่าเหว ..... ไร้สาระ ถุย !!!

.

.

.

เปลี่ยนเรื่อง .....

ปลาหางนกยูงที่บ้านออกลูกด้วยแหละ

ซื้อมาเมื่อวาน .. ตะง้านมาก

เพิ่งคุยกะไอ้อ้วนวันศุกร์ อ้วนอยากเลี้ยงปลา

วันเสาร์ก็ไปซื้อตู้มาใส่น้ำรอ ... ยังไม่มีปลา

วันอาทิตย์แอบไปช้อนในอ่างบัวที่ รร อ้วน

ไม่สวย .. เททิ้งที่เดิม ไปซื้อเอาดีก่า

มีอยู่ตัวนึงพุงกลม ๆ ตอนแรกนึกว่ามันอ้วน

แต่พี่คนขายบอกว่า มันท้อง .. แปลว่า ในท้องเค้ามีลูกปลา

ตอนขี่รถกลับก็คุยกะอ้วนว่า

เออ ... เราลืมถามเนอะ ว่ามันจะออกลูกเมื่อไหร่

ถึงบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมง .. มีลูกปลาในตู้เฉยเลย

ตกกะใจ 50% ...

กรี๊ดกร๊าดกัน 2 คนผัวเมีย .. ไม่เคยเห็นลูกปลาในระยะหัวโขกตู้

ตอนหัวค่ำไปวิ่งเล่นปากคลอง ... พอกลับมา

โอ้โห้ .. ปลาตัวจิ๊ดเต็มเลย !!!

สรุปว่าจากที่ซื้อมา 4 ตัว .. ไป ๆ มา ๆ

มันเพ่นพ่านกันในตู้เป็นสิบ ... แล้วตัวแม่มันก็ยังท้องป่องอยู่

เข้าใจเอาเองว่าเดี๋ยวมันต้องออกมาอีก

สรุปว่าเมื่อเช้า มันออกมาทั้งหมดนับได้ 15 ตัวกว่า ๆ

(กว่า ๆ เพราะว่าในตู้มีต้นไม้ มีบ้าน ไม่รุ้ว่ามันแอบในบ้านมั่งรึเปล่า?)

ดีใจปานถูกลอตเตอรี่ .. แต่ก็ไม่ได้เอะใจ

มาถึงที่ทำงาน นั่งทำงานไป ก็เลยเปิดเวบดู

วิธีเลี้ยงปลาหางนกยูง ... อ่านไป อ่านไป

"โดยธรรมชาติ .. ปลาหางนกยูงเป็นปลาที่กินลูกตัวเองอยู่แล้ว .."

O_o !!!!!!!!!!!!

แดรกลูกตัวเอ๊ง !!!!!!!!!!!!!

เจร๊ดเขร้ !!! ... ไอ้ปลาไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ !!!!

พักเที่ยงแจ้นกลับไปบ้าน เร็วได้เท่าที่ขาสั้น ๆ จะอำนวย

(ลืมกุญแจบ้านอีกตะหาก ..... แมร่ง)

ถึงบ้านจัดแจงรีบแยกไอ้ตัวโตทั้งหมดออก

.. สิริรวมเหลือผู้รอดชีวิตน้อย ๆ 8 ตัวถ้วน ..

ozimo status : ขนปุย ... สะเทือนใจ __"__

.

.

จากที่ตั้งใจว่าจะเลี้ยงแค่ตู้เล็ก ๆ ... คงต้องเปลี่ยนซะแล้ว

โตไว ๆ นะ .. ปลาน้อย ..

ปล. แล้ว ..... กุจะตั้งชื่อยังไงครบทุกตัวเนี่ย ???

.

.

.

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

:: ช อ บ ๆ ::

.

.


.



.

..... ชอบจัง .....

ได้ภาพนี้มานานมากแล้ว

แต่เพิ่งคิดจะอัพ .. หุ หุ

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ขออนุญาติเผยแพร่นะคับ

มันโดนดี ...

.

.

.

วันนี้ไม่มีอะไร

อยากโพสรูปเฉย ๆ ..

ขอร้องอย่าให้มีอะไรผิดไปอีก

เหลือไม่กี่อาทิตย์ที่จะนั่งอยู่ตรงนี้

เต็มเหนี่ยวไปเลยคับ .....

.

.

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

:: โ ด น ::

.

.

คนเราเลือกเจอแต่สิ่งที่ชอบไม่ได้จริง ๆ

เพราะขนาดไม่ได้หันไปมอง .....

มันก็ยังมาเดินผ่านลูกกะตาอยู่เรื่อย ๆ

วันนี้ ... ปรอทแตกเงียบ ๆ ตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าออฟฟิศ

แมลงปากหมา .. มันชุมมากไปหน่อย ...

ไม่มีเวลาจะเก็บเอามาใส่ใจ ..

เพราะมันทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น

.

.

.

สิ่งที่ทำให้รู้สึกแปลบ ๆ ไม่ใช่เพราะการที่คนอื่นมองเราผิด ๆ

ผมเข้าใจเสมอว่ามันเป็นไปไม่ได้

การที่จะบังคับให้ใครคิดยังไง

และคุณค่าความดีงามในตัวคนจะไม่ลดลงเพราะคำพูดไม่กี่คำ

แต่รู้สึกแย่ .... เพราะเสียดายความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้ตะหาก

คงเป็นเพราะบุคลิกเวลาทำงานที่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ

โลกส่วนตัวสูง และ เลียแข้งไม่เป็น .. อาจจะดูขัดตีนกาใครไปบ้าง

มันก็ดีกว่าการเป็นคนยิ้มแย้มประเภทที่รอแทงข้างหลังเวลาเราเผลอ

แบบวันนี้ไง .....

ใครจะไปรู้ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม .. ซ่อนมีดไว้ปาดคอกูนี่เอง

เอาเถอะ ... ไว้เป็นบทเรียน

สิ่งมีชีวิตมันก็มีด้านชั่วร้ายทุกสปีชี่ส์แหละ

วันนี้เขียนเอาไว้เตือนตัวเอง

ว่าความไว้ใจจะเป็นเครื่องสร้างความผูกพันธ์ที่ทรงคุณค่า ..

เมื่อเรามอบให้กับสิ่งที่มีสามัญสำนึกเท่านั้น

.

.

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

:: w r i t i n g ::

.

.

เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว .....

ผมเริ่มรู้จักการเขียนที่มากกว่าในห้องเรียน

เพียงเพราะอยากระบายความรู้สึกอัดอั้นในใจ

ผมเขียนทุกอย่างที่อยากเขียน ... และฉีกมันทิ้งไป

แล้วก็พบว่ามันเป็นอีกวิธีระบายที่ดีพอ ๆ กับการร้องไห้

เมื่อ 4 ปีก่อน .....

ผมบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

ทุก ๆ เรื่องเท่าที่จะนึกได้ตอนนั้น

ทั้งเรื่องดี ๆ เหตุการณ์สำคัญ หรือเรื่องที่ไม่น่าจำ

แล้วก็พบว่า ... ผมมีความสุขกับมัน

เพียงแค่ไล่นิ้วไปบนแป้นพิมพ์แบบตามใจอารมณ์

แต่หลังจากนั้นไม่นาน .. มันก็เปลี่ยนไปอีก

กลายเป็นการเขียน ..... เพื่อเตือนสติตัวเอง

.

.

.

จังหวะที่ชีวิตอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง

หลายครั้ง .... ต้องเจอกับสิ่งใหม่ ที่ทำใจรับยาก

กว่าจะปรับสภาพจิตใจตัวเองได้

เล่นเอาคนอื่นเหนื่อยไปตาม ๆ กัน

เพราะความชอบคิดเกินเหตุ และช่างรู้สึกผิดมนุษย์มนา

รู้ตัวว่ามันทำให้ใครต่อใครเบื่อหน่าย

เมื่อรู้ตัวว่ามันยากที่จะมีใครเข้าใจ

ก็เลยหันมาพึ่งพาตัวหนังสือ .... ดีกว่า

เรื่องดีใจ เรื่องเสียใจ เรื่องเล็กน้อย เรื่องงี่เง่า

เรื่องที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้ เรื่องน่าอาย

จินตนาการบ้า ๆ บอ ๆ ไปจนถึงเรื่องที่ไม่มีใครอยากฟัง

นอกจากมันจะไม่ด่ากลับมาแล้ว ... มันไว้ใจได้

แล้วก็ไม่มีคำว่าไม่ีมีเวลา หรือเห็นอย่างอื่นสำคัญกว่า

.

.

จนถึงตอนนี้ ... ผมหลงรักการเขียนจนโงหัวไม่ขึ้น

ถึงจะบอกว่ายุ่งอย่างโง้นยุ่งอย่างงี้

แต่ก็ยังแอบหนีความวุ่นวายมาเขียนอยู่เรื่อย

ถ้าไม่ได้อัพบล็อค .. ก็จะเขียนเก็บไว้เฉย ๆ

เอาไว้อ่านเอง ... บางทีก็ระบายอารมณ์

จุดประสงค์ในการเขียนตอนนี้ยุ่งเหยิงไปหมด

อยากเขียนให้คนอื่นอ่าน .....

อยา่กเขียนให้ตัวเองอ่าน .....

อยากเขียนแต่ไม่อยากให้ใครอ่าน ....

อยากเขียนแต่ไม่รู้จะให้ใครอ่าน ....

และอยากเขียน ... ก็เพราะว่าอยากเขียน

อย่างวันนี้ ..

ก็เป็นอีกวันที่อยากเขียนเพราะอยากเขียน

เพราะอยากเขียนเพื่อขอบคุณอะไรก็แล้วแต่

..... ที่ทำให้ผมรักการเขียน .....

ขอบคุณที่ช่วยฉุดผม ... ออกจากความเจ็บปวด

หลายต่อหลายครั้ง .....

ขอบคุณที่นอกจากทำให้รักการเีขียนแล้ว

ทำให้รักการอ่านด้วย .....

เพราะมันช่วยเปิดโลกของผมให้กว้างขึ้น

ทำให้มีเรื่องเขียนเพิ่มขึ้นอีกก่ายกอง

ที่ลืมไม่ได้ ....

เพราะมันทำให้ที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่

มองเห็นอะไรอีกหลายอย่างที่ถ้าคิดเองก็คงจะไม่เห็น

และขอบคุณที่การอ่าน ... ทำให้รู้จักเปิดใจ

ทำใ้ห้รู้ว่าการเปิดใจทำให้เราเห็นอะไรมากกว่าที่มันเป็น

และขอบคุณที่สุด .. ที่ทำให้รู้ว่า

แรงบันดาลใจ ... หาได้จากทุกที่บนโลกนี้

ไม่ต้องวิ่ง ไม่ต้องไล่ตาม ....

แค่อย่ามัวยืนชมข้างทางเพลินจนลืมเดินต่อ ... ก็พอ

.

.

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

:: ม นุ ษ ย์ ตั ว เ ล็ ก ๆ ::

.

.

เป็นหวัดมา 3 วันแล้ว

แต่ก็ กระแดะ มาทำงานทุกวัน

เพราะช่วงนี้เป็นไคลแมกซ์ของแผนก

หายไปวันนึงงานจะสุมขึ้นมาประมาณ 3 เท่า

..... เลย ตาย ไม่ ได้ .....

เวลาอยู่ที่ออฟฟิศต้องป้องกันอย่างหนัก

กลัวหวัดกลายพันธุ์ เดี๋ยวเค้าเดือดร้อนกัน

ผ้าคาด (สีส้ม) ปิดปากไว้ตลอดเวลา

แล้วก็มีผ้าขนหนูอีก 1 ผืน

จะจาม จะไอ ก็เอาปิดหน้าอีกชั้นนึง ... เอาให้ิมิด

เวลามีไข้จะหนาวกว่าคนอื่น 2 เท่า

แถมท่อแอร์ จ่อตรงหัวเป๊ะ .... หนาวไปถึงรูสะดือ ....

เอาผ้ามาปิดหัว ปิดหู ใส่เสื้อกันหนาวด้วย

เวลานั่งทำงาน ..... เห็นแต่มือ กับ ลูกกะตา

ไปตรวจมาแล้วสบายใจได้ไม่ใช่ 2009

ไม่เจอไวรัสH1N1 ... เจอแต่ไวรัสขี้เกียจ

กะลังรอใครนำเข้ายาฆ่ามันอยู่ .. ท่าจะแพง

ไม่มีไข้แล้ว แต่ปั่นงานจนมึน ..

กินยาเ้ข้าไปอีก ..... ง่วงอีก

หากิจกรรมบันเทิงปัญญาก่อน

ก่อนที่มรสุม(งาน)ก้อนต่อไปจะแลนดิ้ง .....

.

.

.

เรื่องหงุดหงิดอันดับ 1 ประจำวันนี้ก็คือ

รับแต่โทรศัพท์ ทั้งวัน ..

แต่ผ้าปิดปากอยู่คุยไม่ถนัด ทางโน้นเค้าฟังไม่รู้เรื่อง

พอรับสายทีก็ดึงออกที ..

ดึงเข้าดึงออก เข้า ๆ ออก ๆ อยู่นั่น

ยางดีดปาก ... ดีดหูมั่ง อะไรมั่ง

นานเข้า ๆ ตอนนี้ .. ยางแม่งยืดหมดแล้ว

ชีวิตของมนุษย์ตัวเล็ก ๆ

ช่วงนี้ไม่อยากบ่นอะไรให้มากมาย

เพราะรู้สึกว่า ... ยิ่งบอกว่าแย่ มันก็จะดูแย่

โอเชื่อว่าคำแต่ละคำที่เราปล่อยออกไป

มีพลังมากมายกว่าที่เราคิด

คำพูดดี ๆ .. จะทำให้ชีวิตเรามีแต่สิ่งดี ๆ

.

.

มนุษย์นี่ก็เก่งนะ

มีแค่ปากอย่างเดียว ... ทำได้ทุกอย่าง

ทำให้มีความสุข ทำให้มีความทุกข์

ทำให้คนฆ่ากัน หรือรักกันก็ได้

แค่พูด ๆ ๆ กรอกลงไปเท่านั้น

คนที่กำลังจะตาย 1 คน ..... อาจมีชีวิตรอด

เพราะคำพูดดี ๆ ที่มาพร้อมกับกำลังใจ

แต่คนร่างกายแข็งแรง 1 คน อาจจะกำลังอยากตาย

เพราะคนปากหมาคนเดียวก็ได้

คำพูด .. คืออาวุธที่ร้ายแรงที่สุด

ที่ควรเก็บเอาไว้ให้มิดชิด ...

คำพูดที่ดี .. สามารถสร้างเกราะป้องกันภัยทุกอย่าง

คำพูดที่ทำร้าย ... ก็สร้างศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดได้เหมือนกัน

.

.

มาเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย

สงสัยช่วงนี้โดนด่าบ่อยเลยเก็บกดละ ... อิอิ

ต้องโทษตัวเองล่ะที่เกิดมาอ่อนไหวมากไปหน่อย

ใครพูดอะไรก็เก็บไปคิดซะหมด

ใส่ใจแต่คำพูดคนอื่นจนทำให้ตัวเองเสียสมดุลแล้ว

ทำงานอีก 2 วันก็หยุดละ

จะเหนื่อยไปทำไมล่ะชีวิต

ยังไม่รู้ต้องเดินอีกไกลแค่ไหน ...

เป็นแค่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ ที่บางครั้ง

มันก็ใช้ชีวิตจนหนักเกินตัว

เลยอยากระบายอะไรออกมาบ้าง

แต่มันไม่มีใครฟัง ....

ก็เลยดูเหมือนจะรั่ว ๆ แบบนี้ละมั้ง

ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา

ไม่ใช่เพราะว่าไม่เล่าให้ใครฟัง

แต่เราไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟัง

เพราะว่าคนที่ไม่ชอบเรา .....

เค้าไม่มีวันเชื่อไม่ว่าเราจะพูดว่ามันดีแค่ไหน เค้าก็เกลียด

ส่วนคนที่รักเรา .....

เค้าก็ไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะยังไงเค้าก็จะรัก

ไม่ว่าเราจะย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม

.

.

.

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: รู้ สึ ก แ ย่ ๆ ::

.

.

เค้าบอกว่า

มนุษย์ทุกคน ..... มีสิทธิที่จะเลือก

อะไรก็ได้ ... จริงเหรอ?

เค้าว่ากันว่า ....

ถ้าเราเลือกที่จะมีความสุข ... เราก็จะมีความสุข

แต่ถ้าเราเลือกที่จะมองแต่ความทุกข์

เราก็จะเห็นแต่ความทุกข์ ความไม่สบายใจ .. ล้วน ๆ

เค้าพูดกันว่า ...

ทุกอย่าง .... ล้วนอยู่ที่ใจ

คนเราจะสูงเทียมฟ้า .. ต่ำเตี้ยติดดิน

ไม่ใช่เพราะแต่งตัวหรูหรา ... มีนามสกุลยาว ๆ

ไม่ใช่เพราะมีเงินทอง หรือยศฐาบรรดาศักดิ์ ( เขียนถูกมั้ยวะเนี่ย ? )

ผมจำไม่ได้แล้วว่าจำคำพูดแบบนี้มาจากไหน

แต่ผมชอบมัน ....

.... " ขนาดของหัวใจ " ....

ทำให้คนคนหนึ่ง ยิ่งใหญ่กว่าคนอีกคนหนึ่ง

หัวใจที่ยิ่งใหญ่ด้วยความดี และจริงใจ

สามารถเอาชนะทุกสิ่งได้เสมอ

แต่วันนี้ ...

ผมมองไม่เห็นขนาดของหัวใจตัวเองเลย

ผมไม่ได้ต้องการความยิ่งใหญ่

แต่ก็ไม่ได้ต้องการให้ใครเหยียบจมดิน

ตอนเด็ก ๆ ..

ในขณะที่เพื่อน ๆ ทุกคน

สามารถตอบได้ว่า โตขี้นหนูจะเป็นทหาร

เป็นหมอ เป็นคุณครู เป็นตำรวจ ...

ผมคนเดียวที่ยังนึกไม่ออก

คุณครูบอกว่า .... ไม่เป็นไร

หนูจะได้เป็นอะไรที่อยากเป็น ขอให้เป็นเด็กดีแล้วกัน

ตอนนี้ ... ผมไม่นึกอยากเป็นอะไรแล้วล่ะ

แค่ทุกวันนี้ ขอให้เวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน

.. มีความสุขบ้างก็พอ ..

.

.

.

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: Finally Love Song ::

.

.

วันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. 2549

ผมออกเดินทางจาก กทม.แต่เช้ามืด

ตรงดิ่งสู่พัทยา เพื่อไปเข้างานให้ทัน

ถึงจะต้องอาศัยหลับบนรถไปตลอดทาง

แต่มันเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด

จากที่ไม่เคยมีความรู้สึกปลอดโปร่งแบบนี้มาหลายปี

เธอยังคงเป็นห่วง และโทรหาผมเป็นระยะ ๆ

วันนี้เราคุยกันแบบไร้กังวลเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น

ทั้งเธอ ทั้งผม .. ไม่มีใครต้องรออีกต่อไปแล้ว

.

.

.

ทั้งหมด ....

คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างที่รวมเป็น " เรา " ในวันนี้

หลังจากนั้นชีวิตผมก็เริ่มการเดินทางอีกครั้ง

เช้าไปทำงานที่พัทยา เย็นก็กลับมาหาเธอที่กทม.

จนครึ่งเดือนผ่านไป ...

ผมก็ได้งานใหม่ ที่อยู่ใกล้เธอมากขึ้น

แล้วการเดินทางของผมก็หยุดไว้ที่เธอคนนี้ตลอดมา ( แหวะ .... )

ผ่านวันนั้นมา 3 ปีแล้ว ...

เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเหมือนคืนนั้นเลย

นั่งเล่นคอมฯจนดึกดื่น ..

หันไปมองไอ้อ้วนที่หลับอยู่บนเตียง ...

แล้วก็อมยิ้นออกมาเบา ๆ .....

เพลงทุกเพลงที่อัพมาทุกหน้าของบล็อค

คือเพลง เพลงเดียวกัน .. กับที่ส่งให้เธอทุกวันในตอนนั้น

( ซึ่งก็ไม่เคยได้รับรู้ว่าเค้าได้สนใจฟังบ้างรึเปล่าหรอก )

เพราะทุก ๆ เช้าที่ตูดแปะลงที่หน้าเคาเตอร์เมื่อไหร่

สิ่งแรกที่ทำก็คือ " คิดถึงเธอ "

แล้วก็ง่วนอยู่กับการส่งอีเมลล์ ส่งเพลง ให้เธอวันละครั้ง

จนหลัง ๆ ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

บางวันก็ส่งทั้งเพลง .. ส่งทั้งการ์ด

ส่งอีเมลล์ยาว ๆ (ประมาณ 8 หน้า)

เอาไว้ให้เธออ่านให้เบื่อเล่น ๆ

ตอนนี้ก็ยังเก็บข้อความทุกฉบับเอาไว้

วันดีคืนดีมาเปิดอ่าน ... แล้วก็นั่งหัวเราะคนเดียว

" เขียนจดหมายเหมือนเด็กยังไม่โต "

มีง๊องแง๊ง แง้ว ๆ ไรไม่รุ ปัญญาอ่อนดี .... __"__

หุ หุ ...

จริง ๆ ต่อจากวันนั้นก็ยังส่งเพลง ส่งเมลล์ให้เธออ่านอยู่

จนย้ายไปทำงานที่ใหม่นั่นแหละ ... ถึงได้หยุด

เนื่องจากความไม่สะดวกมากมายหลายประการ

ประกอบกับผู้รับสารคงเบื่อแล้วด้วยแหละ

ที่ต้องมานั่งเช็คอีเมลล์ ฟังเพลงไร้สาระทุกวัน ( ฮึ .. )

แต่คนทำมีความสุขนะคับ ...

มีความสุขทุกครั้งที่คิดถึง ..

ถึงแม้จะโดนตะเองดุบ่อย ๆ ว่า ไร้สาระมั่งล่ะ

เพ้อเจ้อมั่งล่ะ ... น้ำเน่างั้นล่ะ

.

.

.

เข้าปีที่ 4 แล้วไวเหมือนโกหก

ความจริงตั้งใจจะอัพให้ครบทุกเพลง

แต่ .. พอดีก่า

แค่นี้ก็รู้สึกว่ามีหลายคนเข้าใจผิดไปเยอะแล้ว

แหะ ๆ ...

ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า

การบันทึกความหลังครบรอบ 3 ปี ของเราคับ

เรา 2 คน* มีวันครบรอบหลายวัน

เพราะว่าหลายเหตุการณ์สำคัญเท่ากันที่ทำให้เรามีวันนี้

แต่เราตกลงกันไว้ว่าให้ถือเป็นวันที่ 9 มิ.ย.

เป็นวันสำคัญที่สุดเพราะว่าเราเจอกันครั้งแรก

( อัพไว้ที่ exteen แล้วเนาะ )

แต่โออยากให้วันนี้สำคัญด้วยหนิ ... เพราะว่า

" เรานอนเตียงเดียวกันคืนแรก "

ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววว ....... !!!!

ประทับใจมาก มาถึงตี 4 นอนตี 5 ตื่นตี 5 ครึ่ง

ถึงขั้นหลับแบบโดนปลิดชีพบนรถทัวร์กันเลยทีเดียว

.

.

วันนี้ก็ไม่ได้เตรียมอะไรให้เป็นพิเศษ

แค่กลับบ้านตอนเย็นแล้วเห็นหน้าไอ้อ้วนยิ้มแป้น

ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดก็ห๊ายยยย

กลายเป็นวันพิเศษได้ทุกวันอยู่แล้ว ( วี๊ดดดดดดดด )

ผ่านอะไรกันมาเยอะแยะ ...

จำได้ว่าแรก ๆ ที่อยู่ด้วยกัน

ไอ้อ้วนดุชิบเป๋ง .. ดุมาก แล้วก็เจ้าอารมณ์สุด ๆ

ยิ่งภายนอกใครไม่รู้จักก็มักจะแอบกระซิบว่า

" เมียแกท่าทางดุหว่ะโอ .. "

แล้วมันก็มักจะจบลงด้วยข้อสรุปที่ว่า โอต้อง " กลัวเมีย "

หันมาถามโอมั่งว่า ... กลัวเมียมั้ย ?

ขอยืนยันแบบแมน ๆ เลยว่า

.. " ก ลั ว คั บ " ..

กลัวจิ ... กลัวเมียไม่รัก กลัวไม่มีคนกอด

กลัวไม่มีใครทำกับข้าวให้กิน .....

จริง ๆ แล้วอ้วนไม่ดุนะ ..

คือทำเป็นดุไปหยั่งงั้นเองหง่ะ หันมาอีกทีก็ลืมแล้ว

... แ ต่ ว่ า อ้ ว น ก ว น ตี น ....

คอนเฟิร์ม ... อ้วนเป็นผู้หญิงที่

" ก ว น ตี น ที่ สุ ด ใ น โ ล ก "

อ้วนสามารถกวนตีนได้ทั้ง ๆ ที่กำลังทะเลาะกัน

แล้วก็กลั้นขำไม่อยู่ .. กลับมาคืนดีกันในที่สุด

.

.

.

นี่แหละ คือ สิ่งที่ทำให้อ้วน

เป็นผู้หญิงที่น่ารักที่สุดในโลกไปพร้อม ๆ กัน

มีซักกี่คนที่สามารถทะเลาะและรักกันในเวลาเดียวกัน

จะมีกี่คนที่ไม่ว่าเราและเค้าจะงี่เง่าใส่กันกี่ครั้ง

เราก็ยังให้อภัยกันและกันได้เสมอ .....

อยู่ด้วยกันมาตั้งนานละเค้าก็รู้

ว่าอ้วนไม่ชอบให้ทำอะไรหวาน ๆ เลี่ยน ๆ

.. เ พ ร า ะ ว่ า ต ะ เ อ ง ขี้ เ ขิ ล ..

จำได้ว่าตอนวันเกิดอ้วนครั้งแรก

พาอ้วนไปดินเนอร์ร้านอาหารริมน้ำ

แล้วก็แอบโทรไปสั่งเค้กวันเกิดให้

หลังจากนั้นก็ให้น้องเด็กเสิร์ฟเตี๊ยมกะนักดนตรีบนเวที

ให้ร้องเพลงอวยพรแล้วค่อยเอาเค้กมาเสิร์ฟที่โต๊ะ

ไอ้อ้วนเขิลม๊ากกกกกกกกกกกกก

ตอนเป่าเค้กหน้าแดงแป๊ดเลย

แล้วก็ย้ำกะโอหนักแน่นว่า

" ตะเอง ไม่เอาแบบนี้แล้วหง่ะ ... เค้าอาย "

5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 +

หลังจากครั้งนั้นเวลาจะทำอะไร

ก็เลยต้องคิด ทั้งหน้า ทั้งหลัง ทั้งบน ทั้งล่าง

ให้ถี่ถ้วนทุกรูขุมขนเลยคับ

.

.

หน้านี้ยาวเนาะ ... เขียนไปบันเทิงไปนี่นา

นี่ก็คุยโทรศัพท์กันอยู่ด้วยนะ

ยังโทรคุยกันทุกวันทั้ง ๆ ที่อยู่บ้านเดียวกัน

นอนเอาขาเกี่ยวกันทุกคืนเนี่ยแหละ

ถ้ามีคนไหนหายเงียบไปซัก 2 - 3 ชม. ต้องโทรตามแล้ว

เพราะว่ามัน ((( หยุดไม่ได้ .. ขาดใจ )))

เอาจนได้ ... อ้วกกันตามอรรถภาพเลยคับ

เข้าโหมดเดิมละ ..

ทีนี้เค้าจะพูดกับอ้วนล่ะนะ ...

เค้ารู้ว่าตอนนี้ .. อ้วนคงกะลังหงุดหงิดมาก

เพราะเพิ่งถูกหวยแดรกกัน ... (ออกมาได้ไงวะ 456)

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เค้าอัพบล็อคมายาว ๆ วันนี้หรอกนะ

เค้าแค่อยากบอกอ้วนว่า ..

" เค้า รัก อ้วน ทุก วัน นะ "

3 ปีที่ผ่านมา หลัง ๆ นี่

เค้าไม่ได้บอกรักอ้วนทุกวันแบบเมื่อก่อน ...

อย่าเข้าใจผิดว่าโอรักตะเองน้อยลงนะ

ตรงข้ามตะหาก .. มันยิ่งมากขึ้น

จนตอนนี้คำว่ารักคำเดียวมันไม่พอแล้วล่ะ

มันมีคำว่า " ความเข้าใจ " และ " ความผูกพัน "

และอะไรอีกหลายความ .. ตามมาเป็นโขยง

เราทะเลาะกันบ่อย ๆ จนพักหลัง ๆ เราขี้เกียจทะเลาะกันแล้ว

เค้ายังแอบหอมแก้มตะเองตอนตะเองหลับไปแล้วทุกวัน

เรายังผลัดกันงอน ผลัดกันง้อ ...

ผลัดกันหงุดหงิด .. ผลัดกันเอาใจ

ผลัดกันเข้มแข็ง .. ผลัดกันอ่อนแอ

จนตอนนี้เราเห็นตับไตไส้ติ่งกันหมดแล้ว

เค้าก็ยังไม่รู้เลยว่า ... เค้ารักตะเองตรงไหน ?

สิ่งที่รู้มีอยู่อย่างเดียวก็คือ

" ถ้ า ไ ม่ ใ ช่ ม ด ส์ .. โ อ ก็ ไ ม่ รั ก "

ตะเองทำให้โอรู้ว่าจริง ๆ แล้ว

คนที่จะมาเติมเต็มชีวิตเราไม่ใช่คนที่อยู่ในฝัน

แต่คือคนเป็น ๆ ที่เราอยากลืมตามาหายใจข้าง ๆ กันตะหาก

วันนี้รู้สึกเค้าจะเขียนยาวเกินไปแระ

ความจริงมีให้เขียนอีกเยอะนะแต่พอก่อน

เดี๋ยวคนอ่านจะตาลายคลื่นเหียนอาเจียรซะ

โอแค่อยากพูดทุกอย่างให้มดส์ฟัง

ในตอนที่โอยังมีแรงจะทำอะไรดี ๆ ให้ตะเองได้

โอรู้ดีว่ากว่าที่โอจะหาตะเองเจอ ... มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

วันนี้เค้ารักตะเองนะ .. รักที่สุดในจักรวาล

รู้มั้ยว่าโอไม่เคยมีโลกทั้งใบให้อ้วน ...

เพราะโออยากให้อ้วนในสิ่งที่อ้วนจะหาไม่ได้อีก

.. ไม่ว่าจากโลกใบไหน ๆ ก็ตาม..

.

.

.

.

.

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 15 ... ( วันที่ 40 ) ::

.

.

แล้ววันที่ตัดสินทุกอย่าง

ก็มาถึงเร็วกว่าที่คิดอีก ...

จากวันที่เธอเคยบอกผม

ว่าเธอให้เวลาจัดการทุกอย่าง 2 เดือน

จนถึงวันนี้ .. ยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ

ผมก็หมดความอดทนกับทุกสิ่ง

วันนี้ ...

ทั้งวันเราคุยกันเป็นปกติ

โดยที่ผมก็ยังห่วงกับความขี้กังวลของเธอ

ทำงาน โทรศัพท์ .. ทำงาน คุยกัน

ทำงาน ..... " คิดถึงเธอ "

.

.

.

เธอเองยังไม่รู้ว่าผมระเบิดทุกอย่าง

และตัดสินใจทิ้งเรื่องนั้นไปแล้ว

ผมเดินออกจากร้าน .. ไม่มีจุดหมาย

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมเคยโทรหาเธอ

ก็เลยลังเลว่าจะโทรบอกเธอดีมั้ย ?

แล้วเธอจะว่ายังไง ..

ถ้าผมเล่าทุกอย่างให้ฟัง ... ว่าทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว

ผมเดินอยู่ที่ชายหาดและกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย ..

เธอก็โทรเข้ามา ..

นี่มันผิดเวลานี่ ?? ... เธอไม่เคยโทรมาตอนนี้

เธอรู้อยู่ว่า .. เธอจะไม่โทรหาผมตอนนี้แน่ ๆ

แล้ว ...

" ฮัลเหล .... มดส์ ? "

" อ้าว ... ตะเอง ? .. ว๊ายย ... เค้าขอโทษ !!! "

.

.

นั่นแหละคับ ...

เธอก็ตกใจเหมือนกันที่ผมรับสาย

เพราะว่าเธอโทรผิด ..

แต่นั่น คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงระหว่างเรา

ผมเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง

และถามคำถามที่ผมเก็บไว้ในใจมาตลอด

" โ อ เ ชื่ อ ใ จ ม ด ส์ ไ ด้ ใ ช่ มั้ ย ..... "

ผมจำได้ว่า เธอไม่ได้ตอบ

แล้วบอกว่า ให้ผมดูเธอด้วยตัวเองแล้วกัน

.

.

.

ผมเดินเลาะชายหาดไปเรื่อยเปื่อย

คุยโทรศัพท์กับเธอไปด้วย

วันนี้ ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคระหว่างเราอีกแล้ว

เราคุยกันตั้งแต่หัวค่ำ .. จนถึงตี 2

และผมก็ยังอยู่ที่ชายหาด ...

โทรศัพท์แบตจะหมดแล้ว .....

" มดส์คับ .. "

" ค๊ะ ? ... "

" โอไปหาได้มั้ย ? "

" ห๊ะ ?? .. ตอนนี้เนี่ยนะ ? "

" อื้ม .. ทำไมอะ ตี 2 เอง "

" ไม่รู้ ... มีรถเหรอ ? "

" ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวหาเอาก็ได้ .... โอไปหานะ "

" อื้ม ก็ได้ค่ะ ... แต่ต้องคุยกันห้ามวางจนกว่าจะมาถึงนะ "

" โอเคคับ "

.

.

แล้วผมก็ไป ... ไปหาเธอ

ออกจากพัทยาตี 2 กว่า ๆ ..

ไปถึงห้องเธอประมาณ ตี 4 ( เพื่อ ??? )

ถึงจะลำบาก และเราทั้งคู่ต้องตื่นไปทำงานพรุ่งนี้เช้า

แต่ผมก็มีความสุขที่สุด ...

ไม่คิดว่าทุกอย่างจะออกมาแบบนี้

แต่คืนนี้ .. จะเป็นคืนที่ผมหลับตา

มีผู้หญิงที่ผมรักอยู่ในอ้อมกอด ...

และไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรอีก

.

.



.

.

To Be Continue

:: วันที่ 14 ... ( วันที่ 39 ) ::

.

.

เพิ่งดีกันไปเมื่อวาน

ทะเลาะกันอีกแล้ว ...

สาเหตุก็เป็นเรื่องเดิม ๆ สิ่งที่ทำให้เธอกังวล

เธอบอกผมว่าเธอเกลียด ..

อะไรก็ตามที่มันยังเป็นอยู่แบบนี้

และขอร้อง ... ให้ผมเลือก

จะพูดยังไงกับเธอดี ..

ผมไม่จำเป็นต้องเลือก

คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว ... " คือเธอ "

สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ก็คือ

จำกัดความกังวลของเธอให้น้อยที่สุด

ทำทุกอย่างให้เธอมั่นใจ

ว่าผมจะไม่ทำร้ายเธออย่างที่เธอคิด

และถึงแม้ .....

นี่จะเป็นการบอกเลิก ... ครั้งที่ไม่รู้เท่าไหร่

ผมก็ยังเชื่อว่ามันไม่ได้มาจากใจจริง ๆ ของเธอ

เหตุผลเดียวที่ผมไม่สามารถปล่อยเธอหายไป

คือเหตุผลเดียวที่ทำให้ผมยังอยากใช้ชีวิต

ผมไม่รู้ว่าคนที่ใช่ .. แปลว่าอะไร

แต่ผมรู้ว่าใคร ... คือคนที่ผมอยากใช้ทั้งชีวิตเดินไปด้วยกัน

.

.



.

.

To Be Continue

:: วันที่ 13 ... ( วันที่ 38 ) ::

.

.

เช้านี้มาทำงานแบบมึน ๆ

เมื่อคืนก็ไม่กล้าโทรหาเธอ

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ...

ไม่รู้ไปทำให้เธอไม่พอใจตอนไหน

ทำงานไปเบลอ ๆ ไปจนกระทั่ง

เพื่อนสนิทผมโทรเข้ามา

บอกว่า ..

ช่วยรับโทรศัพท์เธอหน่อยได้มั้ย

เธอคิดว่าผมโกรธ ...

จนโทรไปร้องไห้กับเพื่อนผม

ตกใจ พร้อมกับที่ยัง งง ๆ

คงเพราะทั้งมึน ทั้งเบลอ กับเรื่องเมื่อวาน

จนไม่ได้สนใจโทรศัพท์ตั้งแต่เช้า

ไม่คิดว่าเธอจะโทรมาด้วยนี่นา

เลยโทรกลับไปหาเธอ .. แล้วก็

เปิดเจออีเมลล์ที่เธอส่งมาขอโทษ

เธอบอกว่าเธอกังวลไปเอง

แล้วก็สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก

แต่ ... ผมไม่ได้โกรธเธอเลยนะ

เธอมีสิทธิที่จะกังวล ..

ก็ในเมื่อผมยังให้คำตอบเธอไม่ได้ซักที

เวลา 2 เดือนมันเหลือน้อยลงทุกวัน

ตอนนี้ผมยังไม่รู้จะทำยังไง

จะเดินตามทางที่เลือกด้วยหัวใจ

หรือจะทนรับผิดชอบอะไร อะไร ... ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องการ

.

.



.

.

To Be Continue

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 12 ... ( วันที่ 37 ) ::

.

.

เป็นอีกวันที่ตื่นเต้นที่สุดในโลก

วันนี้เธอมาหาผมที่พัทยาคับ

เราโทรคุยกันตลอดตั้งแต่เช้า

ผมก็รอ ร๊อ รอว่าเธอจะมาถึงเมื่อไหร่

หวิด ๆ ว่าจะไม่ได้เจอกัน

เพราะเธอบอกว่าเพื่อน ๆ อยากมาแค่ บางแสน

เศร้าไปแว่บนึง ...

แต่สุดท้ายเธอก็มาจนได้

เข้ามาหาที่ร้าน .. มานั่งเล่นเน็ต

แล้วก็ซื้อขนมมาฝากด้วย

..... น่ารักที่สุด .....

.

.

.

พอเธอมาอยู่ใกล้ ๆ ก็เลยไม่เป็นอันทำงานเลยคับ

เทียวไป เที่ยวมา อยู่ที่โต๊ะ แล้วก็เครื่องที่เธอนั่ง

เป็นวันที่ผมทำงานอย่างมีความสุขที่สุดเลย

เธอที่หลุดจากโลกออนไลน์ของผม

เธอตัวเป็น ๆ ... ออกมานั่งอยู่ตรงหน้าผม

อยากให้เป็นแบบนี้ทุกวันเลย

ในที่สุดนายทนไม่ไหว ..

ก็เลยยอมให้ออกไปวิ่งเล่นกับเธอได้ โดยไม่หักตังค์

( แถมไม่เก็บเงินเธอด้วย ... ขอบคุณคร้าบบบ )

ออกมาจากร้านแล้วก็เดินไปชายทะเลกัน

เพราะว่าเพื่อน ๆ เธอรออยู่ที่นั่น

เราเดินจับมือกันไปเรื่อย ๆ ..

คุยโน่นนี่กัน .. ไปจนถึงชายหาด

ช่วงเวลาแห่งความสุขหมดลงแล้ว

ผมเจอเพื่อน ๆ เธอ ... และส่งเธอขึ้นรถ

มองรถคันนั้นเล็กลง เล็กลง .. จนลับตาไป

เหมือนน้ำตาจะไหล แต่ทำยัีงไงได้

ก็ต้องเกรงใจเพื่อน ๆ เธอด้วย

เดินกลับมานั่งทำงานหงอย ๆ ...

ซักพักเธอก็โทรเข้ามา .. เพื่อ บ อ ก เ ลิ ก

งง ๆ มึน ๆ .. ไม่รู้ว่าเกิดอะไร

ทำอะไรก็ไม่ถูกแล้วล่ะตอนนี้

รู้แต่ว่าตอนนี้ ... ผมคิดถึงเธอมาก จริง ๆ

.

.



.

.

To Be Continue

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 11 ... ( วันที่ 36 ) ::

.

.

ช่วงนี้รู้สึกเธอจะคิดมากไปหน่อย

เดี๋ยวดีกัน เดี๋ยวทะเลาะกันเป็นว่าเล่น

แต่ช่างเถอะ ...

ขอให้มีเธออยู่แบบนี้ก็พอ

พรุ่งนี้เธอบอกจะมาหาเราที่นี่แหละ

ดีใจจัง .. ตื่นเต้น ตื่นเต้น ..... อีกล่ะ

ช่วงนี้ที่นี่กะลังมีงานที่ชายหาดพอดีเลย

จะมีเวลาพาเธอเที่ยวมั้ยนะ

โดดงานซัก 2 - 3 ชม.ดีก่า

อิอิ ..

.

.

.

ตั้งแต่วันที่เธอก้าวเข้ามาในชีวิต

ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดเลย

ผมอยากมาทำงานทุกวัน

เพื่อที่จะได้คุยกับเธอ .. ส่งเมลล์หาเธอทุกวัน

นั่งเขียนอีเมลล์ยาว ๆ ตั้งแต่เช้า

โดยที่ใจความในเมลล์สรุปได้เพียงว่า

" คิดถึง "

ถึงแม้เราจะทะเลาะกันบ่อย ๆ ( เพราะใครล่ะ )

แต่ก็ไม่เกิน 2-3 ชม. ต้องกลับมาดีกันแล้ว

เธอทำให้ทุก ๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตมีค่า

จนผมไม่อยากเสียเวลาไปนึกถึงอะไรอย่างอื่นเลย

.

.



.

.

To Be Continue

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 10 ... ( วันที่ 35 ) ::

.

.

เป็นช่วงที่เสาร์อาทิตย์น่าเบื่อที่สุดในโลก

เพราะผมยังต้องห้ำหั่นกับ จดหมายกองท่วมหัว

และเธอก็ไม่ได้ออนเอ็ม ...

โชคดีที่มีโทรศัพท์ ..

ไม่งั้นผมคงหงุดหงิดกว่านี้หลายเท่า

หลังจากที่เมื่อวานทะเลาะกันก่อนกลับ

แต่ไม่นานหลังจากนั้นเราก็ดีกันเหมือนเดิมคับ

ทะเลาะกันไปก็ไม่สบายใจ คิดถึงกันเปล่า ๆ

เมื่อวานได้ไปบ้านเธอด้วย

จนถึงตอนนี้ยังตื่นเต้นอยู่เลย

ถ้ามีเวลามากกว่านั้นก็ดีสิ

ถ้าผมไม่ได้ทำงานที่นี่ .....

ถ้าผมกับเธอทำงานอยู่ใกล้ ๆ กัน

จะไปหาเธอทุกวันเลย ..

.

.

.

วันนี้มีข่าวดีที่สุดในโลก

เพราะเธอบอกว่าอีกไม่กี่วัน

จะมาพัทยาแหละ

มาหาผมรึเปล่าไม่รู้ .. แต่เธอจะมา

ดีใจเพราะจะได้เจอกันอีก

ทำงานไม่มีสติอีกแล้ว

ได้แต่เร่งวันเร่งคืน ... อยากให้วันนั้นมาเร็ว ๆ

จะทำอะไรให้เธอดีนะ ?

จะพาไปเที่ยวไหนดี ??

ลางานซะดีมั้ยเนี่ย ???????

.

.



.

.

To Be Conitnue

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 09 ... ( วันที่ 34 ) ::

.

.

วันนี้ตื่นเช้าเป็นประวัติการณ์

ออกจากพัทยาตั้งแต่ 7 โมงกว่า

ไปถึงบ้านเธอก็เกือบ ๆ 11 โมง

ซื้อดอกไม้ให้เธอด้วยล่ะ ... ดอกกุหลาบสีแดง

แล้วเราก็ไปดูหนัง กินข้าวด้วยกัน

แย่จังเลยนะวันนี้

เมเจอร์ไฟดับ ..... หนังเพิ่งเล่นไปได้ครึ่งเดียว

แต่ก็ดีนะ ...

เพราะมันทำให้เวลาที่เราจะอยู่ด้วยกันนานขึ้นอีกนิด

.

.

ออกจากโรงหนังเราก็ไปนั่งหาไรกินกัน

คุยกันไปเรื่อยเปื่อย

เขินแฮะ ... ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลย

มือไม้ไม่รู้จะเอาไปวางไว้ไหน

เธอน่ารักกว่าที่คิดไว้อีก ..

เราคุยกันแบบต่างคนต่างก็ไม่ชิน

มันไม่เหมือนในโทรศัพท์นี่เนอะ

แต่ว่า ..... มีความสุขจัง

น่าเสียดายที่ช่วงเวลาของความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ

แถมตอนท้ายผมก็ทำให้เธอไม่พอใจซะด้วยสิ

จะให้ทำยังไงได้ล่ะ

ใจผมอยากอยู่ที่นี่ไม่อยากกลับแล้วด้วยซ้ำไป

เธอจะเข้าใจบ้างมั้ยนะ .....

เฮ้อ ......

[นิดนึง : ได้จับมือเธอแล้ว !]

[อีกนิดนึง : ตอนไฟดับแอบหอมแก้มเธอด้วย]

[อีกนิดนึงนะ : ดีไม่โดนตบ ... อิอิ]

.

.



.

.

To Be Continue

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 08 ... ( วันที่ 33 ) ::

.

.

เฮ้อ ... เกือบไปแล้ว

ทั้ง ๆ ที่พรุ่งนี้แล้วแท้ ๆ

อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะได้เจอกันแล้ว

ดันมีเรื่องไม่เข้าใจกันขึ้นมาซะอีก

แต่จะให้ไปโทษใคร .. เธอมีสิทธิ์จะคิด

เพราะว่าคนผิดจริง ๆ แล้วคือตัวเราเองต่างหาก

ตอนนี้ทำได้แค่ประคองทุกอย่างเอาไว้ให้ดีที่สุด

ผ่านมา 2 เดือนแล้ว

เราต่างก็ยังมีเรื่องที่ต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ

ขอแค่เธออย่าเพิ่งหนีไปจากผมแล้วกัน

.

.

.

เมื่อวานว่าตื่นเต้นแล้ว

วันนี้ยิ่งตื่นเต้นกว่าเป็น 2 เท่า

อีกคืนเดียวเท่านั้น

พรุ่งนี้ตั้งใจจะตื่นแต่เช้า

อยากมีเวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด

วันเดียวเท่านั้น .....

ไม่รู้ว่าผ่านวันพรุ่งนี้ไปแล้ว

เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันอีกเมื่อไหร่

ขอให้พรุ่งนี้ ทุกอย่างราบรื่น

อย่าให้มีอุปสรรคอะไรมาทำให้เราสั่นคลอนอีกเลย

ขอแค่ให้เธอเข้าใจผมบ้าง

คน ๆ นี้มอบทุกอย่างในชีวิตให้เธอแล้วจริง ๆ นะ

.

.



.

.

To Be Continue

:: วันที่ 07 ... ( วันที่ 32 ) ::

.

.

แล้วความพยายามของเมื่อวาน

ก็ประสบความสำเร็จ .....

เราดีกันแล้วคับ

เธอขอโทษกับความที่คิดมากไปล่วงหน้าของเธอ

ผมไม่โกรธ และยังเข้าใจเธอเสมอ

ถ้าผมเป็นเธอ ผมก็คงอดคิดไม่ได้เหมือนกัน

เอาเป็นว่าตอนนี้เราปรับความเข้าใจกันแล้ว

เธอไม่มั่นใจและไม่รับปากว่าจะเกิดแบบนี้อีกมั้ย

แต่ผมว่า ...

ผมมั่นใจนะว่ามันต้อง .....

.

.

.

เรื่องที่ดีใจที่สุดของวันนี้

คงไม่พ้น .. เรื่องที่

อีก 2 วัน .....

ผมจะไป กทม. คับ

ใช่แล้ว ... ผมจะไปกทม

ไม่ได้ไปเรื่องงาน ไม่ได้มีธุระแต่

ผมจะไปหาเธอคับ .....

ครั้งแรก .. ที่เราจะได้พบกัน

ผมตื่นเต้นจนเร่งวันเร่งคืนอยากให้มันถึงวันนั้นเร็ว ๆ

จริง ๆ เราก็นัดกันมาตั้งนานแล้ว

แต่เพิ่งจะค้นพบวันและเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็วันนั้น

ไม่รู้ว่าเธอเองจะตื่นเต้นเหมือนกันมั้ย

แต่วันนี้ใคร ๆ ก็ทัก ว่าดูผมร่าเริงเป็นพิเศษ

จะไม่ได้ร่าเริงยังไงไหว

หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาข้างนอกอยู่แล๊วววววว

.

.



.

.

To Be Continue

:: วันที่ 06 ... ( วันที่ 31 ) ::

.

.

เธอทำให้ผมเป็นบ้าอีกแล้ว

ด้วยการไม่รับโทรศัพท์ตั้งแต่เช้า...จนบ่าย

ทั้งกระวนกระวาย .. ร้อนรน

แล้วเธอก็เมลล์มาบอกว่า

เธออยากรับสายผม เธอคิดถึง แต่ .....

แล้วหยุดไว้แค่นั้น

เข้าใจในทันทีว่า เธอคงรู้สึกอะไรขึ้นมาอีก

คงต้องใช้ความพยายามอีกแล้วล่ะ

ผมง้อ .. ง้อ ..... และง้อ

สร้างความมั่นใจให้เธอทุกอย่าง

ว่าสิ่งที่เธอกังวล ที่เธอกลัว จะไม่เป็นความจริงแน่นอน

.

.

.

เราใช้เวลาเกือบทั้งวันของวันนี้

โต้ตอบเมลล์กันโดยที่เธอก็ยังไม่ยอมรับสายผมอยู่นั่นเอง

จะให้อธิบายซักกี่ครั้งผมก็ยังไม่หมดความอดทน

ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดว่า

เมื่อเรื่องราววุ่นวายในชีวิตผมลง

ผมคงจะอยากอยู่เฉย ๆ .. โดยไม่มีใครซักพัก

ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ใช้ชีวิตอิสระอย่างที่ต้องการ

ไม่มีขีดจำกัด ไม่มีการฉุดรั้ง

แต่แล้วในวันนึง ... ผู้หญิงคนนึงก้าวเข้ามา

เปลี่ยนทุกอย่างในใจผมโดยสิ้นเชิง .. ผมตกหลุมรักเธอ

ตอนนี้ผมอยากทำทุกอย่างเพื่อเธอคนนั้น

อยากใช้ชีวิตทุกลมหายใจให้มีคุณค่าที่สุด

เพื่อที่วันนึงหากผมต้องจากโลกนี้ไป

ผมจะมองกลับมาโดยไม่เสียดายเวลาที่เคยมีอยู่บนโลก

ว่าเพื่อคนที่ผมรัก ...

ผมทำได้ทุกอย่างเท่าที่ผมจะมีปัญญาแล้วจริง ๆ

.

.



.

.

To Be Continue

:: วันที่ 05 ... ( วันที่ 30 ) ::

.

.

อยู่ ๆ เธอก็ส่งเมลล์มาบ่นว่า

" ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ "

แล้วไอ้รู้สึกแบบนี้ ... มันคืออะไรหง่ะคับ?

เธอถามผมว่า .. ตกลง

ระหว่างเรามันคืออะไร ...

ถามว่า .. จริง ๆ แล้ว

ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยใช่ไหม๊ ?

.

.

.

งง .. นะคับ

ผมไม่รู้เธอเป็นอะไร

พอถามเธอก็บอกไม่มีอะไร

คุยกัน เธอก็ทำน้ำเสียงแปลก ๆ

ตกลง ... เธอเป็นอะไรคับ?

เธอบอกไม่รู้ ผมก็ไม่รู้ ..

จนเริ่มจะเครียดแล้วล่ะ

เป็นห่วงนะ แล้วก็อยากรู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น

ที่เธอบอกว่าผมไม่ได้รักเธอ

คนไม่รักกัน ... ไม่นั่งคิดถึงกันทั้งวันนะคับ

พยายามอธิบาย ให้เธอฟังทุกอย่าง

ดูเหมือนวันนี้เธอจะไม่ค่อยยอมรับอะไรเลย

แต่ในที่สุดเธอก็สารภาพคับ

เธอบอกว่า .. เธอฝันไม่ดี

เกี่ยวกับเรื่องของเรา ... ผมพอจะเดาออก

แต่ก็ยังไม่แน่ใจ .. จนเธอยอมเล่าทุกอย่าง

ยอมรับว่าในใจมันวี้ดสุด ๆ

มันเรียกว่าอะไรนะ .. ประทับใจ ? มากกว่านั้น

ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะแกล้งหลอกให้ดีใจเล่นรึเปล่า

แต่ผมมีความสุขจนตัวลอยเลยล่ะ

ก็เพราะเธอน่ารักแบบนี้ไง

ผมถึงปล่อยให้เธอหายไปไม่ได้อีกแล้ว

.

.



.

.

To Be Continue

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 04 ... ( วันที่ 29 ) ::

.

.

ทำตัวงี่เง่าอีกล่ะกุ

ไม่ได้ทำไมหรอก ... แค่หึง

ก็เมื่อคืนเธอไปเที่ยว แล้วก็ไม่รับโทรศัพท์

กว่าจะโทรกลับมา .. เราก็คิดไปไหน ๆ ๆ แล้ว

ช่างมันเถอะ .. ก็คุยกันรู้เรื่องแล้ว ( มั้ง ) .....

.

.

.

วันนี้เมลล์ไปหาเธอยาวเหยียด

หาเรื่องแพ่มไปเรื่อยไม่รู้เธอจะอ่านรึเปล่า

อยากบอกว่าคิดถึงซักวันล่ะ 100 รอบ

เดี๋ยวนี้บอกรักเธอทุกวันเวลาโทรคุยกัน

วันละหลาย ๆ รอบ ..

จนพักหลัง ๆ นี่เธอชอบหัวเราะแล้วบอกว่า .....

นี่ตะเอง ... ถ้าบอกคิดถึงอีก จะเก็บคำล่ะ 5 บาทแล้วนะ

แล้วถ้าบอกรัก .. เค้าเก็บคำล่ะ 10 บาทโอเค๊?

รวม ๆ แล้วตั้งแต่คุยกันมา

เธอเก็บเงินผมได้หลายพันแล้วล่ะคับ

วันดีคืนดีเราก็ขัดใจกันด้วยเรื่องเดิม ๆ

เสร็จแล้วก็กลับมาดีกัน ... ผลัดกันง้อ ผลัดกันเคือง

จริง ๆ แล้วผมเพิ่งรู้ว่า

ตัวเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่า

ใครซักคนที่รักเราอย่างจริงใจ

พร้อมที่จะอยู่เคียงข้าง และ ให้อภัย

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม .....

.

.



.

.

To Be Continue

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 03 ... ( วันที่ 28 ) ::

.

.

ไชโย๊ !!!

ในที่สุดเราก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม

ผมรู้นะว่าตัวเองแอบงี่เง่าไปบ้าง

ไม่รู้เธอจะเบื่อรึเปล่า

วันนี้เธอบอกว่าจะไปเที่ยวแหละ

ไม่อยากให้ไปเลย ...

เที่ยวกลางคืน ไปกับใครบ้าง ..

คนเยอะแยะ เหล้าเอย บุหรี่เอย ทั้งเมา ทั้งมั่ว

แต่ก็เป็นความสุขของเธอนิ

พยายามทำใจให้เฉย ๆ ... เฉย ๆ

เพราะว่าก่อนจะรู้จักกันเธอก็เที่ยวเป็นปกติอยู่แล้ว

เอาน่ะ .. ไม่ใช่ว่าคนกลางคืนจะเป็นคนไม่ดีทุกคนซะหน่อย

คนอย่างเธอน่าจะระวังตัวเองอยู่แล้ว

อีกอย่างก็ไปกับเพื่อน ๆ เยอะแยะ

แต่เป็นห่วงขากลับนี่แหละ ...

ต้องนั่งแท็กซี่กลับไกล ๆ ด้วย

อยากไปกับเธอจัง .....

เมื่อไหร่นะวันนั้นจะมาถึง

.

.

.

แต่ดีกันได้แป๊บเดียว

ดูเพลงที่เธอส่งมาสิ ..

" อยากบอกเอาไว้ซักคำ ว่าฉันไม่เคยเสียใจถึงไม่มีเธอ "

เจ็บ ... จี๊ด

การบอกเลิกครั้งที่ 4 ..

น้ำตาร่วงอีกแล้ว ...

เธอบอกว่าไม่อยากทำให้ใครต้องเสียใจอีก

แล้วก็บอกว่าเธอไม่มีค่าพอสำหรับผม

จะบ้ารึไง ... ถ้าเธอจะไม่มีค่าสำหรับใคร

คน ๆ นั้นต้องไม่ใช่ผมแน่ ๆ

เพราะว่าเธอ .. คือคนที่ทำให้

ความหมายของคำว่า " รัก " ที่ผมมี

ชัดเจน ... มากขึ้น ..

แล้วก็มากกว่าครั้งไหน ๆ ที่เคยผ่านมาด้วย.....

.

.



.

.

To Be Continue

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 02 ... ( วันที่ 27 ) ::

.

.

ความสัมพันธ์ของเรายังคงกระท่อนกระแท่น

ผมคงไม่ได้เข้าข้างตัวเองเกินไป

ที่คิดว่าเรา 2 คน* มีใจตรงกัน

ถึงจะไม่ได้แสดงออกอย่างเต็มที่

แต่ผมก็เข้าใจเธอดี

เมื่อวาน ...

เราได้แต่ส่งเมลล์คุยกัน

ทุกวันผมเฝ้ารอแค่เมื่อไหร่จะถึงเวลาเลิกงาน

อยากคุยกับเธอ อยากได้ยินเสียงเธอ

แค่นี้เองที่ทำให้ผมอยากมีแรงเดินต่อไปเรื่อย ๆ

ผมยังไม่รู้ว่าเรื่องของเราจะลงเอยแบบไหน

เมลล์หลายฉบับของเธอเมื่อวาน

ระบายหลายสิ่งที่เธออึดอัดมาตลอดเวลา

เพราะเรื่องของเรา .....

และมีอีกหลายอย่างบ่งบอกให้ผมรู้ว่าเธอเองก็เสียใจไม่แพ้กัน

คงอีกไม่นานหรอก ..

บางสิ่งบางอย่างเดินทางเข้าใกล้จุดสิ้นสุดขึ้นทุกที

ผมขอเพียงวันนี้

ผมยังมีเธออยู่

เธอที่ยังเต็มใจจะรอผมอยู่ตรงนั้น

แค่เธอคนเดียวก็พอ .....

.

.

.



.

.

To Be Continue

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

:: วันที่ 01 ... ( วันที่ 26 ) ::

.

.

หลังจากที่ผมพยายามขอร้องเธอ

เราก็กลับมาดีกัน ... แป๊บเดียว

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น

เธอก็บอกเลิกกับผมอีกครั้ง .. เป็นหนที่ 3

ด้วยเหตุผลอะไร เราทั้งคู่ต่างเข้าใจมันดี

แต่ผมยอมไม่ได้อีกแล้ว

ต้องให้พยายามจนตาย .. ผมก็จะรั้งเธอเอาไว้

จะไม่ปล่อยให้เธอเดินหายไปอีก

.

.

.

วันนี้ทั้งวัน ..

เราทั้งแชท ทั้งโทร ทั้งเมลล์

แต่ไม่ได้คุยกันอย่างมีความสุข

เธอพยายามปฏิเสธ .. ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา

ผมก็หาเหตุผลให้เธอกลับ ขอร้องไห้เรากลับมาเหมือนเดิม

เป็นอยู่แบบนั้น ...

แต่ผมกลับมีความสุขกว่าวันที่เราไม่ได้คุยกันเป็นล้าน ๆ เท่า

ขอให้ได้มีเธอ .. ขอให้เราคุยกันแบบนี้

แต่เธอก็ใจร้ายจังนะ ..

วันนี้ผมอ่านเมลล์แล้วก็สะอึกไปหลายครั้ง

เธอส่งเพลงมาให้ 2 เพลง แบบเต็ม ๆ เพลง

อย่าใกล้กันเลย ... ( เพลงนี้ใช้เป็นเสียงรอสายด้วย แสบจริง ๆ )

กับ ความลับ ของมัม .....

ผมเข้าใจความหมายที่เธอส่งมา

ซึมเป็นส้วมไปเป็นพัก ๆ

แต่ .. ผมไม่ยอมนี่

ผมเลือกเธอแล้ว ... คนที่ผมรักคือเธอ

อยากเป็นคนที่ยืนข้างเธอ จับมือเธอ

และถ้าผมยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้

ชาตินี้ทั้งชาติ ..... ผมก็คงไม่มีวันได้มีเธอ

.

.



.

.

To Be Continue

:: วันที่ 31 ... ( วันที่ 25 ) ::

.

.

วันนี้มาทำงานในสภาพ ... ตาบวม จนได้

ไม่รู้จะมีใครสังเกตุเห็นรึเปล่า

เกือบเช้าแล้วที่ผมนอนร้องไห้จนหลับไป

ความคิดถึงเธอมันก็ยังไม่ลดลงอยู่ดี

ผมนอนคิดแล้วคิดซ้ำ วนไปวนมาทั้งคืน

คำตอบที่ได้ทำผมตัดสินใจแน่นอนแล้ว

วันนี้ .. ไม่ว่ายังไง

ผมก็จะโทรหาเธอ ...

ตลอดไม่กี่วันที่ผ่านมา

หัวใจของผมตอบทุกคำถามที่เธอเคยทิ้งไว้

ผมรู้แล้วว่าในที่สุดจะต้องทำยังไง

ไม่จำเป็นต้องตัดสินใจเลือกซักนิด

มันยิ่งกว่าชัดเจน ..

ผมต้องการ " เธอ " คนเดียวเท่านั้น

.

.

.

ผมรวบรวมสมาธิอยู่นานเลยล่ะ

กว่าจะกล้ากดเบอร์โทรหาเธอจนได้

แล้วก็เงียบอยู่ซักพัก ..

เธอเองคงรู้ว่าเป็นผมจากเบอร์ที่โชว์

ผมยังลุ้นเงียบ ๆ .....

แอบทำใจแล้วว่าเธออาจจะตัดสาย

หรือไม่ก็คงปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้น

คราวนี้ เธออาจจะเกลียดผมไปแล้วก็ได้

แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้น ..

เธอรับโทรศัพท์ และคุยกับผม

หลังจากที่รู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ

ต่อจากนั้นมันต้นแรงจนแทบทะลุออกมาข้างนอก

ผมไม่ได้ดีใจ ... แต่มีความสุขที่สุดในโลกเลยต่างหาก

ถึงจะไม่กล้าพูดอะไรกับเธอเท่าไหร่

แต่ผมโคตรดีใจ .. ที่ได้ยินเสียงเธออีกครั้ง

ถามเธอถึงช่วงที่เราไม่ได้คุยกัน

และ ..... ขอร้องให้เธอกลับมา

ขอเธออย่างหน้าด้าน ๆ ... ไม่มีเหตุผล

ผมไม่รู้ว่าเธอกลายเป็นส่วนนึงในโลกของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่

ความทรมานที่ผ่านมาบีบคอผมให้กอดเธอไว้ให้แน่นที่สุด

คราวนี้ ผมจะไม่ปล่อยให้เธอไป

จะไม่ให้เธอหายไปจากโลกของผมอีกแล้ว

.

.



.

.

To Be Continue

:: วันที่ 30 ... ( วันที่ 24 ) ::

.

.

2 วันแล้ว ที่ผมไม่ได้ยินเสียงเธอ

ไม่มีข้อความส่งถึงกัน ...

ไม่ได้เห็นแม้แต่ตัวไอคอนของเธอ

โลกทั้งโลกว่างสนิท ..

เสียงหัวใจเต้นอย่างอ่อนล้า

ร่างกาย ... ไม่อยากขยับเอาซะเลย

ทั้ง ๆ ที่งานกองมหึมาตั้งอยู่ตรงหน้า

ผมก็อดคิดถึงเธอไม่ได้ ..

ไม่ใช่ ... ไม่ใช่อดคิดถึงไม่ได้

แต่ไม่เคยหยุดคิดถึงเธอเลยต่างหาก

ผมคิดว่าเราจากกันแบบนี้

ต่างคน .. ต่างก็หายไปจากกัน

มันอาจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

ถ้าเราไม่คุย ไม่ติดต่อกัน

ทั้งเธอ และ ผม ก็คงจะลืมกันไปได้เองในที่สุด

แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ..

ผมกลับยิ่งคิดถึงเธอมากขึ้นทุกที

มากซะจน ... กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกแล้ว

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ .....

ถ้าไม่เพราะคุณลูกค้าใจดีคนนึง

ยื่นทิชชู่ลายการ์ตูนมาให้

ผมคงยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ

นี่เรียกว่าร้องไห้รึเปล่านะ ...

น้ำตาผมไหลเงียบ ๆ .. ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ

ผมขอบคุณสำหรับน้ำใจและกระดาษน่ารัก ๆ

และยังคงปล่อยให้น้ำอุ่น ๆ ไหลลงจากตาอยู่แบบนั้น

มันจะพอล้างความคิดถึงเธอให้ลดลงได้บ้างมั้ยนะ

.

.

.



.

.

To Be Continue

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

:: วันที่ 29 ... ( วันที่ 23 ) ::

.

.

ทุกอย่างเงียบเชียบ ...

ผมนั่งทำงานอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม

.. แต่ไร้ความรู้สึก ..

หลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน

ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองให้เป็นปกติได้เลย

อยากโทรหาเธอ อยากคุยกับเธอ

ตอนนี้คงกำลังจัดการเรื่องคุณแม่อยู่ที่ต่างจังหวัด

เราไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่เมื่อคืน

สิ่งที่ผมทำได้ ... ก็คือขอร้องให้เพื่อนผม

ช่วยโทรไปหาเธอ บอกเธอให้ที

ผมเป็นห่วงเธอมากที่สุด .....

.

.

.

เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้

วันที่เธอบอกว่าเธอเจ็บปวดและทรมาน

ตัวผมเองก็ไม่ต่างกัน

ความรักของเราที่เธอขอร้อง

ว่าถ้าทุกอย่างมันเดินต่อไปไม่ได้ .. เราก็จบลงแค่นี้เถอะ

เธอถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าผมต้องการอะไรกันแน่

รู้มั้ย ... ว่าเธอเจ็บปวดมากขึ้นทุกวัน

แล้วผมก็ยังไม่มีปัญญาทำอะไรเพื่อเธอให้มากกว่านี้

ระหว่างผมกับเธอ ..

ไม่รู้ว่าใครที่ต้องทรมานมากกว่ากัน

วันนี้ผมไม่กล้าโทรหาเธอ ... ทั้ง ๆ ที่คิดถึงแทบขาดใจ

อยากให้ตัวเองหายไปจากโลกซะตอนนี้

จะได้ไม่ต้องทำให้ใครเจ็บปวดอีก

มันเป็นความคิดที่งี่เง่าที่สุดในชีวิต

ถ้าหากไม่อยากให้ใครเจ็บปวด ผมก็ต้องหยุดการกระทำของตัวเองซะ

เลิกทำให้เธอเจ็บ .. เลิกทำให้เธอร้องไห้

เลิกเหนี่ยวรั้งเธอซะที .....

.

.



.

.

To Be Continue

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

:: วันที่ 28 ... ( วันที่ 22 ) ::

.

.

มีอะไรมากมายผ่านเข้ามา

ในช่วงเวลาแค่ไม่ถึงวัน

ก่อนเลิกงานของเมื่อวาน

ผมได้รับข้อความจากเธอ

และผมก็ชาไปทั้งตัวอีกครั้ง

ข้อความที่เธอส่งมาบอกว่า

คุณแม่ของเธอ เสียแล้ว

ก่อนหน้านั้นเพียง ไม่ถึงชั่วโมง

ผมเพิ่งส่งข้อความเป็นบทสวดมนต์

เอาไว้ให้เธออ่านเพื่อตั้งสมาธิ

ผมรู้ว่าเธอเป็นกังวลมากเรื่องอาการของแม่

แต่ทุกอย่าง .. เหมือนถูกกำหนดเอาไว้แล้ว

.

.

.

ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้

ผมอยากไปอยู่ข้าง ๆ เธอมากที่สุด

แต่เรากลับ .. ไม่เข้าใจกันอยู่แบบนี้

ผมอยากช่วยเธอ แต่ทำอะไรไม่ได้เลย

นั่งเงียบ ๆ คิดถึงเธอ เป็นห่วง ..

อดทน ... และภาวนา

คงเป็นไปได้ยากที่จะให้เธอเข้มแข็งในตอนนี้ ..

ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเธอด้วย ...

.

.



.

.

To Be Continue

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

:: วันที่ 27 ... ( วันที่ 21 ) ::

.

.

วันนี้ ...

ผมรู้สาเหตุของการที่เธอเปลี่ยนไป

The End .. ข้อความที่ส่งจากมือถือของผม

แต่ไม่ได้ถูกส่งด้วยฝีมือผม

ผมเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง ...

แต่ดูเหมือนว่าเธอเอง จะยังเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง

ผมยังต้องใช้ความพยายามต่อไป

มากกว่าเมื่อวาน .. และมากขึ้นเรื่อย ๆ

ถึงแม้ว่าการคุยกันแต่ละครั้งจะลงท้าย

ด้วยข้อความ และ น้ำเสียงที่เย็นชา

แต่ผมก็ดีใจที่เธอยังยอมรับสาย

ผมไม่ได้พยายามอธิบายอะไรให้เธอฟังนอกจาก

ชวนเธอคุย ... เรื่อยเปื่อย

เธอก็คุยบ้าง ไม่คุยบ้าง

บางครั้งเธอก็ปล่อยให้ผมรอสายนาน ๆ

เหมือนจะแสดงให้ผมสำนึกว่า

การรอคอย .. มันไม่ได้สนุกเลย

.

.

.

ช่วงเวลาแห่งความทรมาน

มักจะผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสมอ

แต่ .. ผมก็ยังไม่ท้อหรอกนะ

ผมบอกกับเธอว่า ผมไม่อยากให้เธอตัดใจ

และตัวผมเอง ก็จะไม่ตัดใจเหมือนกัน

ทุกอย่างจะเป็นเครื่องพิสูจน์

จะทำให้เธอเข้าใจให้ได้ในซักวันนึง

ที่ไม่รู้ว่าวันนั้น ... มันจะมาถึงผมมั้ย

.

.



.

.

To Be Continue

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

:: วันที่ 26 ... ( วันที่ 20 ) ::

.

.

สถานการณ์ไม่ดีขึ้นเลยจากเมื่อวาน

การที่ผมพยายามอธิบายอะไร

กลับยิ่งทำให้เธอเข้าใจผิดไปกันใหญ่

ตอนนี้ เธอคิดไปแล้วว่าผมไม่ได้รักเธอ

เธอเข้าใจไปแล้วว่า ผมไม่จริงใจ

เพราะความใจดีเกินไปของตัวเอง ...

เพราะผมยังใจอ่อนกับคนที่ไม่ควรให้ความสงสาร

ผมทำให้เธอเจ็บปวดอีกจนได้ .....

.

.

.

เธอบอกผมว่าเธอเจ็บมาก .. กับครั้งนี้

และให้เรา ... เลิกอย่างเด็ดขาด

เลิกคุย เลิกคิดถึง เลิกติดต่อไม่ว่าทางใด

อีกครั้งนึงแล้ว ..

ทุกคำของเธอทำผมนิ่งยิ่งกว่าซาก

ไม่เถียง ไม่พูด ไม่อธิบายอะไร ... และยังเข้าใจ

ทุกอย่างผิดที่ผมคนเดียวจริง ๆ

แล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะทีนี้ ..

มือเย็น ตัวชา ... ยังไม่ตายแต่ไม่มีความรู้สึก

คงต้องยอมแล้วจริง ๆ เหรอ .....

ต้องปล่อยมือจากเธอแล้วจริง ๆ เหรอ ?

แล้ว ... ผมจะทำได้ ..... งั้นเหรอ ?

.

.



.

.

To Be Continue

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

:: วันที่ 25 ... ( วันที่ 19 ) ::

.

.

วันนี้เธอเป็นอะไรไม่รู้

อยู่ ๆ เราก็ไม่เข้าใจกัน ...

แต่ผมไม่โทษเธอนะ ..

เราเองที่ไม่สามารถให้ความรู้สึกที่มั่นคงกับเธอได้

แล้วจะมีสิทธิ์ไปเรียกร้องอะไร

แค่เธอยังอยู่ทุกวันนี้

เธอก็เสียสละให้ผมมากพอแล้ว

ผมไม่โกรธเธอหรอก ... จริง ๆ

แล้วก็ยังยืนยันคำเดิม .. ผมจะเป็นเหมือนเดิม

ถึงเธอจะบอกให้จบ ... แต่ผมจบไม่ได้

ยังคิดถึง ยังเป็นห่วงเธอเหมือนเดิม

ฟังเพลงทุกครั้งก็ยังคิดถึง

วันนี้ก็ส่งเพลงไปให้เธอฟังอีก

หวังแค่หลังจากที่เธอฟังแล้ว

เธออาจจจะคิดถึงผมบ้าง .. แค่นั้นก็พอ

.

.

.

เฮ้อ .. เลยมืดไปหมด

ถึงจะพยายามทำใจให้เข้มแข็ง

ทำตัว ทำหัวใจ ทำทุกอย่างให้เหมือนเดิมยังไง

มันก็ว้าเหว่ได้เหมือนกันล่ะว๊า

เธอพูดซะขนาดนั้น ... จะไม่ใจสั่นเลยยังไงไหว

แต่เธอไม่ผิด .. เธอเองก็เจ็บ

ถ้าวันที่ผมจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว

ผมจะทำให้เธอมีความสุขมากกว่านี้

.

.



.

.

To Be Continue

:: วันที่ 24 ... ( วันที่ 18 ) ::

.

.

วันนี้ส่งเมลล์ช้าอีกแหล่ววววว

งานเยอะจังฮิช่วงนี้ ...

ไม่รู้เธอจะเบื่อรึยังเนาะ

ส่งเพลงให้ฟัง ส่งเมลล์ให้อ่านทุกวันเลย

ช่วงนี้ได้ยินเสียงเธอทุกวัน

แล้วก็ออนเอ็มคุยกันทุกวัน

ตกกลางคืนก็คุยกันจนดึกดื่น .. ดีจัง

อยากให้เวลาแบบนี้อยู่กับเราไปนาน ๆ

วันข้างหน้าอาจจะเกิดอะไรขึ้นไม่รู้

แต่วันนี้ผมอยากบอกว่ารักเธอให้นานที่สุด

.

.

.

จริง ๆ แล้ว .. สิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ผมรู้ว่าเธอเอง ไม่ได้มีความสุขเต็มร้อยหรอก

ยังมีเรื่องราวมากมายที่ทำให้ผม

ไม่สามารถมอบทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองให้เธอเพียงคนเดียว

ถึงเธอจะบอกว่า เธอเข้าใจ ..

แต่ผมก็อดรู้สึกผิดไม่ได้จริง ๆ

ไม่ใช่รู้สึกผิดที่เจอเธอ ...

แต่เพราะว่าไม่สามารถจัดการอะไรได้ซักที

เธอบอกว่า เธอจะให้เวลาผม 2 เดือน

เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากเป็นผู้ร้าย

ถ้าในเวลา 2 เดือน ผมยังไม่สามารถทำทุกอย่างให้เคลียร์

เธอตัดสินใจแล้ว .. ว่าจะเป็นคนเลือกไปจากผมเอง

ไม่ว่าวันพรุ่งนี้ จะเป็นผมที่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิตมั้ย

แต่วันนี้ยังมีเธออยู่ .. ผมยอมทั้งนั้น

ขอร้องล่ะใครก็ได้ข้างบน ... ช่วยผมที

ผมรักเธอจริง ๆ นะ .....

.

.



.

.

To Be Continue