วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

กระดาษห่อของขวัญ

.

.

วันนี้มีคนถาม ...

ว่าเดี๋ยวนี้ไม่เขียนหนังสือแล้วเหรอ

อยากจะบอกว่า ....

แค่ทำงานแต่ละวันให้ลุล่วงไปด้วยดี

ตะคริวก็ผลัดกันแดรกทั้ง 10 นิ้วอย่างสนุกสนานแล้วคับ

.

.

.

วันนี้ฤกษ์งาม .. หัวหน้าประชุม

ไถหัวมาระบายความใคร่(จะเขียน)ใส่หน้า A4 ด๊วนนนน !!!

.

.

ว่าแล้วมันเป็นกรรมเก่า

โลกทั้งใบแมร่งเป็นอนิจจัง

พอนิ้วสัมผัสแป้นพลันทุกสิ่งที่คิดไว้

กระเจิดกระจายหายไปในบัดดล ... ลมปราณแตกซ่านอีกระกุร์

เจ๊ดตะม่อน ....

ตอนแรกกะว่าจะมาเล่าอะไรให้ฟัง

นึกไปนึกมา ... เรื่องอยากเล่าเยอะไปหมด

เดี๋ยวเขียนยาวจบไม่ทันหัวหน้าออกจากห้องประชุม

..... เก็บไว้ก่อน .....

แล้วก็นึกว่า จะลองเขียนเรื่องอะไรแปลก ๆ แหวกแหนดูบ้าง

อ่านว่า แหวก – แน๋ ( เอามาจากอิน้องโก้ )

มันบอกว่า แหวกแนว ธรรมดาไปแล้วพี่

แหวก แหน๋ .... ได้อารมณ์กว่า

มันต้องเป็นภูติแม่น้ำโขงปลอมตัวมาแน่ ๆ ...... ไอ้นี่

.

.

.

วันนี้อ่านไดเพื่อนพิม พูดถึงเรื่องหนัง

ได้ไปดูองค์บาก 2 มาเหมือนกัน

ออกจากโรงทำหน้าพิศวงกัน 2 คน

.. หนังจบแล้วเหรอ ? ... แล้วองค์บากยังไงอะ ?

นั่งหลบตีนจาพนมทั้งเรื่องเลย

ลืมไปว่าไม่ได้ดูหนัง 3 มิติ ..... หุ หุ

แต่ก็สะใจดีนะ ... ใครที่ชอบดูหนัง ถีบ ตี ต่อย แบบนี้

ถ้าทำเป็น 3 มิติจริง ๆ ก็ดี .... แบบมีตีนยื่น ๆ ออกมาด้วย

จะได้เข้าใจความรู้สึกเวลาโดนตีนจาถีบหน้า

..... เป็นการเข้าถึงอารมณ์ภาพยนต์ในอีกแบบ .....

โปรแกรมหน้า ...

จะจูงข้อเท้ากันไปดู Happy Birthday

ฟังเรื่องย่อแล้วอยากดู .....

อยากได้กระดาษห่อของขวัญ

.

.

แล้วก็ทำให้นึกถึง กระดาษห่อของขวัญสีทอง

อาจจะมีใครที่เคยผ่านตาเรื่องนี้จากฟอร์เวิร์ดเมลล์มาบ้าง

จะขอเล่าแบบย่อ ๆ แล้วกัน

ชายคนหนึ่ง ... ลงโทษลูกสาววัย 5 ขวบ

ที่นำเงินไปซื้อกระดาษห่อของขวัญสีทองราคาแพง

ในภาวะการเงินในบ้านฝืดเคือง

และเขาต้องอารมณ์เสียอีกครั้ง

เมื่อลูกสาวของเขานำกระดาษนั้น

มาห่อกล่องของขวัญเพียงเพื่อตกแต่งต้นคริสต์มาส

แต่กระนั้น .. ในเช้าวันรุ่งขึ้น

ลูกสาวตัวน้อยได้มอบกล่องของขวัญสีทองนั้นแด่พ่อของเธอ

ชายผู้นั้นกระอักกระอ่วนใจยิ่งนัก

กับอาการที่ได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้

แต่อารมณ์โกรธก็พุ่งขึ้นอีกครั้งเมื่อพบว่ามันเป็นเพียงกล่องเปล่า

เขาตวาดอย่างเกรี้ยวกราดว่า

“ลูกไม่รู้หรือว่าการจะให้ของขวัญใคร จะต้องมีอะไรในกล่องนั้นด้วย”

เด็กน้อยมองพ่อของเธอทั้งน้ำตา และพูดว่า

“พ่อจ๋า มันไม่ใช่กล่องเปล่าเลย”

“เพราะหนูเป่าจูบเข้าไปจนเต็ม”

ชายคนนั้นสะอึก ตัวชาด้วยความเสียใจ

เขาทรุดตัวลงโอบกอดลูกสาวไว้แน่น

ขอให้ลูกสาวยกโทษให้กับท่าทางโกรธเกรี้ยวเกินเหตุของเขา

ต่อมาไม่นาน ...

อุบัติเหตุได้คร่าชีวิตลูกสาวของเขาไป

ว่ากันว่า เขาเก็บกล่องของขวัญสีทองล้ำค่านั้นไว้ข้างเตียง

ตลอดชีวิตของเขาเลยทีเดียว .....

และยามใด ที่เขาท้อแท้ใจ หรือเผชิญปัญหายากเย็นแสนเข็ญ

เขาจะเปิดกล่องของขวัญนี้

บรรจงหยิบจูบในจินตนาการขึ้นมา 1 จูบ

แล้วรำลึกถึงความรักของลูกน้อย

ที่ได้ตั้งใจใส่จูบนั้นไว้ให้กับเขา .......

.

.
กล่องของขวัญสีทองนั้น จะไม่มีค่าใด ๆ เลย

หากผู้เป็นพ่อตั้งมาตรฐานของขวัญด้วยคุณค่าทางวัตถุ

แต่ความรักที่ปราศจากเงื่อนไขของลูกน้อย

กลับยิ่งทวีคุณค่า ..... เมื่อวันที่เจ้าของกล่องนั้นต้องจากไปไกล

.

.

.

คุณล่ะ ..... เคยได้รับกล่องของขวัญสีทองจากใครบ้าง

แล้วคุณ ... เคยมองเห็นคุณค่าของสิ่งที่บรรจุไว้ภายในกล่องนั้นแค่ไหน?

กล่องเปล่าใบนั้นไม่ได้มีคุณค่า .. ด้วยกระดาษห่อที่ดูหรูหรา

ของขวัญชิ้นนั้นไม่ได้มากคุณค่า … เพราะราคาค่างวดที่สูงลิ่ว

แต่กล่องใบนั้น คือสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด ๆ ในโลก

ด้วยเหตุเพราะเราสัมผัสได้ถึงความปรารถนาดีที่บริสุทธิ์

ของขวัญที่อวลฟุ้งไปด้วยความรัก ..... ถึงแม้จะมองไม่เห็นด้วยตา

คนรับต่างหากคือผู้ที่กำหนดคุณค่าของสิ่งนั้น

.

.

สำหรับใครก็ตามที่อ่านมาถึงตรงนี้

ผมอยากให้คุณลองนึกทบทวนดูให้ดี

กลับไปยังที่ที่คุณเก็บกล่องของขวัญสีทองกล่องนั้น

หยิบมันออกมาแล้วรำลึกถึงความรักที่ผู้ให้บรรจงมอบกับคุณ

ไม่ต้องขอบคุณคนที่ให้คุณหรอก

คำขอบคุณ ไม่ได้มีค่ามากไปกว่า

การที่คุณแสดงให้เขารับรู้ ...

ว่าคุณยังจำของขวัญชิ้นสำคัญภายในกล่องนั้นได้

และคุณค่าของมันยังคงเบ่งบานในความรู้สึกของคุณเสมอ

.

.

ยาวไปแล้วนะวันนี้

ไม่ได้เขียนนาน ... เขียนทีคุ้มเลย

กลัวแต่ว่า ..... คนอ่านจะขี้เกียจซะก่อนเนอะ

อิ อิ .........

เขียนตั้งกะหัวหน้าเข้าประชุม จนจะเลิกงานพอดี

จะไปเตรียมตัวเก็บข้าวเก็บของกลับบ้านละ

วันนี้ต้องกลับไปซักผ้า ... 1 กระบุงถ้วน

อาทิตย์หน้าวันพฤหัส แพลนไว้ว่าจะไปดูไฟกะที่รักส์

ไม่รุ้จะผิดแผนอีกรึเปล่าน๊ออออ ..... __*__

ชอบคริสต์มาสจังเลย ..... สงกรานต์ก็ชอบนะ

ชอบทุกเทศกาลรื่นเริง ...

เพราะมันทำให้วันแย่ ๆ ดูมีชีวิตชีวา

ใครวางแผนปีใหม่จะไปทำไรกันมั่ง

เข้ามาแนะนำผมกะนู๋มดส์มั่งจิ ..... หิ หิ

เผื่อจะเปลี่ยนแผนเดิม 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 +

.

.

.

ไปแล้ว ๆ ..... อย่าลืมนะคับ

มองเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่เถอะ

ผมเชื่อว่าทุกคนมีกล่องของขวัญสีทองกันทั้งนั้น

อย่าปล่อยให้คนที่มอบกล่องให้คุณต้องท้อแท้

เพราะการไม่เห็นคุณค่านั้นเลย

.

.

.

.

[ ฝากบอกเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนนั้นด้วยนะ ]

กล่องของขวัญกล่องนั้นชั้นให้นายไป

จนตอนนี้นายตัวโตเบ้อเร่อ ... และทิ้งกล่องนั้นไปแล้ว

แต่คนอีก 2 คน .... ที่แม้นายจะทิ้งกล่องนั้นลงตรงหน้าเค้า

ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ... ทั้งคู่ก็ยังยืนยันที่จะมอบกล่องนั้นให้นายต่อไป

ชั้นเสียใจ .... มันไม่เท่าไหร่

แต่ 2 คนนั้น ..... มันยิ่งกว่าความเสียใจหลายร้อยเท่า

เลิกทำร้ายเค้า .... แล้วกลับมาเป็นเด็กน้อยคนเดิมของท่านเถอะ

.

.

4 ความคิดเห็น:

oporlesion กล่าวว่า...

พี่โอ "โม่" 55+ กลับมาแล้วจ้า กลับมาแล้ว

แล้วก็ได้อ่านไดของพี่ทันเวลา พี่โอ ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับเวงกำหรอก

แต่เกิดมาพร้อมกับความ ซวย 55+ กรี๊สส อะล้อเล่งอ่า

เกิดมาซวยที่ได้เจออะไร ๆๆ แบบนี้ไง งานสุมหัว ถือว่ามีประสบการน๊า

หนังเรื่องนี้น่าดู เห็นโฆษณาอยู่เมื่อว๊านเน๊เองพี่ แล้วพี่โอ

นู๋จะไม่ห่อของขวัญให้ใครหลอก แต่นู่จะไปกระโดนกอดเค้าเลย

55+

~ p r i m ~ กล่าวว่า...

อื้มมมมม

ชอบประโยคที่ว่า ....

คนรับต่างหากคือผู้ที่กำหนดคุณค่าของสิ่งนั้น

เขียนยาว แต่สาระดีโคด

^^

Jerrie กล่าวว่า...

เด๋วต้องไปหาคนให้กล่องของขวัญอะไรแบบนั้นมั่งแล้ว
แต่ตอนนี้...ไปหาจูบจริงๆจากคนข้างตัวไปก่อนละกัน

คิก คิก

oporlesion กล่าวว่า...

เอาซี้ พี่โอ พานู่ไปทัว ขสมก. หน่อยเหอะ มาครั้งหน้าจะได้ไม่หลงอีก ไป กทม. ทีไร หลงได้จริง นั่งรถผิด หรือไม่ก็นั่งไม่เป้น เพิ่งจะโดนบังคับครั้งล่าสุดนี่ล่ะ ว่าถ้าไม่นั่งรถมาเอง เลิกกัน 55+ นั่งไปถูกน่ะ แต่ร้องไห้ไปเลยอ่ะ

พี่โอ กะป้ามดย้ายบ้านแล้วหร๋อ ไปอยู่แถว ๆ ไหนนั่น
แล้วเรื่องสอบก็ขอให้ผ่านน่ะ
เพี้ยงงงง ปีใหม่เที่ยวใน กทม. ดี ๆ จะได้ไม่เปลองเงินเที่ยว