วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

:: ต้ น ปี ข อ ง ผ ม ::

.

.

วันนี้ขยัน ... อัพแม่ม 2 บล็อคเลย

เพิ่งอัพ exteen ไป .. ยังไม่หายบ้า

ตามมาอัพที่นี่ต่อ ... พิมพ์ให้อัมพาตแดรกคีย์บอร์ดไปเลย

.

.

ปีเสือยิ้มของผมเริ่มต้นไม่ดีเท่าไหร่

มีแต่เรื่อง ... ตั้งแต่เครื่องใช้ในบ้านทยอยกันป่วย

เริ่มจากโน้ตบุ๊ค (อันนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว)

เครื่องซักผ้า ดีวีดี ทีวี (2 รอบ)

นาฬิกา (2 เรือน) มอร์เตอร์ไซค์ (2 รอบ)

ยังไม่นับของกระจุกกระจิกจุ๊กจิ๊กเล็ก ๆ น้อย

ที่ทยอยกันตายโดยไม่แจ้งล่วงหน้า

ตั้งแต่ พวงกุญแจ เครื่องเหลาดินสอ หูฟัง

เครื่องคิดเลข และ Card reader ...

ที่เลวร้ายที่สุดดูเหมือนจะเป็น ประมาณ 3 อาทิตย์ก่อน

มีอาการเจ็บที่เหงือตรงฟันซี่ในสุด .. ตอนแรกเจ็บนิด ๆ

ไปจนถึงเจ็บมาก ... และเลยไปถึงเจ็บโคตร ๆ

เจ็บชิปเป๋ง .. จนปวด .. ปวดลามมาทั้งกรามด้านล่าง

ปวดจนขึ้นขมับ ... สุดท้าย ปวดจนอ้าปากไม่ได้

จนต้องไปหาหมอ .. หมอแรก ... วินิจฉัยว่าน่าจะเกิดจาก ฟันคุด

ก๊อด .. ฟันตุ๊ด ... จริง ๆ เหรอนี่

ได้ยินกิตติศัพท์มาหลายทศวรรษ ..

ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นกับตัวเอง ... ฮึก ๆ ฮือ .... ( สะอื้นเป็นภาษาโปรตุกี๊ส )

หมอให้ยามากิน ... ยาบ้าไร กินเหมือนกินขนม

ไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดเลยซักนิด

1 อาทิตย์ผ่านไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ปวดมากกว่าเดิมอีก ... ปวดจนน้ำตาไหล แก้มตุ่ย บวม

ต้องแปะพลาสเตอร์บรรเทาปวด ( กอเอี๊ยะ ) ช่วยที่ข้างแก้ม

ดูหน้าตัวเองเหมือนพวกหัวหน้าแก๊งมัธยมในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น

ถามว่ายาที่หมอแรกให้มาทำอะไรมันได้บ้าง ?

ไม่เลยซักนิด .... กินเข้าไป 2 กำ .... ปวดเท่าเดิม

จะกินต่อไปก็เมื่อยตับโดยเปล่าประโยชน์

ตัดสินใจไปหา หมอที่สอง ...

นั่งรถไปหาหมอสองด้วยระยะทาง 8 หมื่นลี้ ( อี๊ ... )

ข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว ( กรุงเทพ - สมุทรปราการ )

ขึ้นเตียงปุ๊บ .. หมอ 1 พยาบาล 3 มารุมรอบเตียง

หมอสั่งให้อ้าปาก ... อ้าไม่ได้

กางได้เต็มที่ประมาณ 4 องศาลิปดาตะวันตก

คุงหมอขอร้องให้พยายามง้างอีกหน่อยได้มั้ย

หมอเอาเครื่องมือเข้าไปไม่ได้ .... กูเจ็บ ... น้ำตาร่วงแล้ว

พี่พยาบาลก็พยายามช่วยง้าง .. ง้าง ... ง้างงงง

. . . . . . . . . . . . . . . . .

ห้วงเวลานรกผ่านไป ...

หมอให้ข้อสรุปว่า " ยั ง ส รุ ป ไ ม่ ไ ด้ "

แต่สันนิษฐานว่าเป็นฟันคุดไว้ก่อนแล้วกัน

ให้ยาแก้บวม แก้อักเสบ แก้ปวด และยาฆ่าเชื้อมา 1 ขวด

กินยาให้หมด แล้วอีก 1 อาทิตย์เจอกัน

เดินหน้ายุ่ง แก้มปูด ออกมาจากห้องทรมาน

ชีวิตทำไมมันเอน็จอนาจขนาดนี้วะ

ได้ยากลับบ้านอีก 1 กำ .....

ตลอด 2 อาทิตย์กว่า ๆ ที่ .... แดรกห่าไรไม่ได้ ....

ไม่ได้คือ ไม่ได้เลย ... ไม่ได้ทั้งสิ้น ไม่ได้ด้วยประการใด ๆ

สสารอันใดก็แล้วแต่ที่ต้องออกแรงแม้ปลายลิ้นกระดก

โอซิโม่ ไม่สามารถรับเข้าสู่กระแสเลือดได้ ....

แค่พูด ... ก็เจ็บเข้าไปถึงซาง อ้าปาก .. ก็เจ็บ

ช่วงนั้นคุยกับใครก็เหมือนไม่เต็มใจ .. กัดฟันพูดตลอด

( พูดไม่เต็มปากมันเป็นอย่างงี้นี่เอง )

อาหารที่ทะลวงลิ้นไก่ผ่านไปถึงรูทวารได้ตลอด 2 อาทิตย์

จึงมีแต่น้ำ น้ำข้าว ( ใส่เกลือ ) โจ๊ก ต้มจืด ( ดูดได้แต่น้ำ )

เข้าใจคำว่า " หยอดน้ำข้าวต้ม " .. อย่างลึกซึ้งถึงแก่น

ส่งผลให้ในสัปดาห์ต่อมา ... โอซิโม่กางเกงหลวม

เป็นเรื่องดีเรื่องแรกของปี ^^

จนมาถึงวันนี้ .. 3 อาทิตย์กว่าแล้ว

เพิ่งจะกินข้าวได้เมื่อ 2 วันก่อน ... มีฟามสุขค่อด ๆ

เหมือนสายรุ้งปรากฎในวันฝนซา

เมื่อวานไปหาคุณหมอสอง .. เผื่อว่ามีฟันตุ๊ดจิง ๆ จะได้่ผ่า

แต่หมอบอกว่า ... ไม่น่าจะเกิดจากฟันคุดนะ

แต่ไอ้ฟันกาม (กราม) ด้านบนมันแหลมและคมมาก

จนมีโอกาสที่จะไปขบโดนเหงือ และ กระพุ้งแก้ม

หมอจะแต่งมันให้แล้วกัน ....

ไม่พูดพล่ามทำดนตรี ... ไม่ถามกุด้วยว่าจะทำมั้ย

3 พยาบาลสาว ( มั้ง ) ชุดเดิมมายืนล้อมเตียงอีกแล้วคับ

เอาผ้ากันเปื้อนมาผูกคอให้ .... " นอนลงนะคะ "

มีผู้หญิงสั่งให้นอน ... โอก็นอน ( เมียจะตบมั้ยเนี่ย )

แล้วเอาผ้าเขียว ๆ มาปิดตา ....

สะดุ้งพรวด !!! ... ลุกขึ้นมานั่ง .... หมอก็ตกใจ

" หนูเป็นอะไร ! " ...

สบตาหมอ 3 วินาที .... " เจ็บมั้ยคับ ... __"__ "

แอบได้ยินหมอถอนหายใจเฮือก ทำหน้างง ๆ แล้วตอบ

" ไม่เจ็บ ๆ .... แค่แต่งฟัน ไม่เจ็บหรอก "

โอเค ... สบายใจขึ้น 20% .... นอนลงอย่างว่าง่าย

" เอ้า ... อ้าปากนะครับ "

อ้า .... อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

.........................

ชั่วโมงนรกกลับมาอีกแล้ว !!!

สารพัดอุปกรณ์ห่าเหวรากกล้วย

ที่ 3 พยาบาล ผลัดกันยื่น ผลัดกันแหย่

ทุกอันที่หมอจะสามารถยัดลงไปให้โ่พรงปากอันน้อยนิด

" ครืด ๆ ๆ แครก ๆ ๆ ๆ วี้ ๆ ๆ ๆ ๆ กรึ๊กกกกกกกก !!! "

.... แล้วโครงการก่อสร้างตึก 48 ชั้นก็ได้ทำเลก่อสร้างใหม่ ....

ในปากกรูนี่เอง !!!!

พ่อแก้ว แม่แก้ว ตะบัก ตะบวย ถ้วย ถัง กะละมัง หม้อ !!!

หมอแม่งไม่ถามซักคำว่า เจ็บมั้ย อะไรมั้ย

สะเทือนใจที่สุดก็ตรงไอ้ที่กรอฟันของหมอ

แม่งแลนดิ้งออกนอกเส้นทาง ... ถากกระพุ้งเข้าไปเต็ม ๆ

น้ำตาร่วง ทนไม่ได้แล้ว ลุกพรวดขึ้นอีกที

ทั้ง ๆ ที่เครื่องมือทุกอย่างอยู่ในปาก ....

ทุกคนแตกฮือ ... ตาลีตาเหลือกดึงเครื่องมือออก ( เกือบไม่ทัน )

ไอ้โอหันไปทำตาขวางใส่หมอกับผู้ช่วย

" อ๋อ .. โอนแอ้ม ..... เอ็บ " ( subtitle : หมอ .. โดนแก้ม ..... เจ็บ )

แล้วหันไปคว้าน้ำบ้วนปาก ... ก่อนที่จะนอนลงอย่างสงบอีกครั้ง

สร้างความปั่นป่วนใจให้เหล่าผู้พิทักษ์ัฟันกรามพอสมยอม

.........

เหตุการณ์ผ่านไปอย่างขลุก ๆ ขลัก ๆ งึก ๆ งัก ๆ

เดินแก้มตุ่ยออกมาจากห้องดับสติอีกครั้ง

เจ็บ อิ๊บ อ๋าย ... จ่ายตังค์ รับยา แล้วเดินตัวเบาออกมา

เฮ่อ .........

ผ่านไปอีก 1 เหตุการณ์ระทึกขวัญของชีวิต

.

.

.

เหนื่อยเหมือนกันที่มีแต่เรื่องวุ่น ๆ

แต่ก็เชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น

ล้วนเกิดเพื่อพาให้ชีวิตเราไปยังจุดที่ดีที่สุดเสมอ

สู้เว้ยย !!!

.

.

5 ความคิดเห็น:

mud_zzz กล่าวว่า...

พี่โอแอคชั่นมากๆ

ดีนะตอนลุกพรวดขึ้นมาไม่โดนเครื่องมือหมอกะแทกปากซ้ำไปอีก

คราวหน้าบอกหมอไปเลย
"ไม่ว่าจะทำอะไรกับปากผม กรุณาทายาชาด้วยคับ"

ระวังๆนะค่ะเด๋วเตรื่องมือหมอกะเเทกปากเจ็บกว่าผ่าฟันคุดอีกนะเออ

mud_zzz กล่าวว่า...

นู๋ย้ายบล็อคค่ะพี่โอ

www.iammudz.blogspot.com

blogspotเชื่อได้ค่ะ อิอิ

นายต้นกล้า กล่าวว่า...

ฮา....เกินกว่าจะสงสาร...^^

Jerrie กล่าวว่า...

อ่านแล้วมันส์อ่ะ ลุ้นตาม
แล้วตกลงหายยัง?

คิก คิก

Tar la la กล่าวว่า...

อ่านแล้ว ไม่รู้จะสงสารคนไข้หรือหมอฟันดี
แต่ฮาค่ะ