.
.
เอ้อ ...
พอแตะนิ้วลงคีย์บอร์ดปุ๊บ
ทุกสิ่งอันพลันสลายจากสมองโดยสิ้นเชิง
เมื่อกี๊ .. คิดอะไรไว้วะ .. ลืม
จะเขียนเรื่องอะไรเนี่ย ... ลืม
.
.
.
.
.
.
.
(หายไป 8 นาทีครึ่ง )
อ๋อ ... จะเขียน เรื่อง เหี้ย ๆ
เมื่อวันก่อนได้สัจจธรรมมาจากบล็อค exteen โดย คุณวิชัย
จำรายละเอียดยิบไม่ได้ .. จำได้คร่าว ๆ พี่เค้าพูดว่า
เรื่องเหี้ย ๆ ที่เกิดขึ้น ... เราเท่านั้นที่จะจัดการกับมันได้
การเล่าให้คนฟังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เราแค่อยากระบายเท่านั้น
แต่ระบายไปก็ไม่มีไรดีขึ้น .. เรื่องเหี้ย ๆ ไม่มีวันสิ้นสุด
ถ้าเรายังไม่ออกมาจากจุดนั้น ...
อาทิตย์หน้า ..
กุกะลังจะไปจาก(บาง)เรื่องเหี้ย ๆ (บาง)หนังหน้าเหี้ย ๆ แล้วล่ะ
เพราะฉะนั้น ... ไม่ระบายแล้วกัน
จบ .. 1 เรื่อง
ปล. ขอบคุณ ตะคริว ณ นิ่วใจ สอนให้ผมเข้าใจ
แปลก ไม่ได้หมายความว่า ไม่เข้าท่า
และคนบ้าหายใจได้ทุกละติจูดบนดาวเคราะห์ดวงนี้
.
.
.
เขียนเรื่องประเทืองอารมณ์ดีก่า
อาทิตย์หน้าจะได้ย้ายแล้ว
ย้ายสายงาน ย้ายตำแหน่ง แต่บริษัทเดิม
เพิ่งรู้ตอนที่เก็บโน่นเก็บนี่ว่า
ไอ้จิปาถะเนี่ยเยอะมากกกกกก ..
ไม่รุ้แมร่งมาจากไหน
จำได้ว่าตอนมา ... ไม่มีไรเลย
นอกจาก ดินสอ ปากกา และเครื่องคิดเลข
ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะขึ้น ๆ .. เก็บทิ้งมั่งได้มั้ยเนี่ย
ช่วงนี้จะไม่เจอคำทักทายอะไรเลยนอกจาก
" ย้ายวันไหน " " จะไปแล้วเหรอ " " กลับมาเยี่ยมบ้างนะ "
.......
ดูอบอุ่นดีเนอะ .. แต่แค่ย้ายไปอีกมุมในห้องเดิมเอง __"__
คงคิดถึงหัวหน้าน่าดู ...
ถ้าไม่มีพี่ .. คงไม่มีใครถีบโอให้เดินหน้ากว่าตอนนี้
" ข อ บ คุ ณ คั บ "
ไม่กล้าไปพูดกะแกตรง ๆ .. เขิน
ย้ายไปแต่ก็ยังเดินไปเดินมากวนตีนพี่แกได้อยู่
ดีใจล่ะที่ไม่ต้องวุ่นวายกับกองเอกสาร
ได้ทำงานที่เราถนัดกว่า ... แล้วก็ชอบด้วย
ท้าทายนิดนึง .. เพราะไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อนเลย
เคยแต่ทำเล่น ๆ กะป๋องไปเรื่อย
ได้ลงมือจริง ๆ จัง ๆ เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว
รู้สึกภูมิใจดีพิลึก ... สู้เค้า โอ ซิ โม่ !!
.
.
ยังมีอีก
ช่วงนี้เป็นไรไม่รุ้ ... หงุดหงิด
เพราะอะไร ๆ มันก็ไม่ได้อย่างใจมั้ง
ความกลัว .. มันไม่เข้าใครออกใคร
อดีตที่เลวร้ายมันลืมกันได้นะถ้าไม่มีอะไรมาสะกิด
พยายามแล้วใช้ธรรมะเข้ามาข่มใจ ... ก็ดีขึ้นหน่อยนึง
แต่ไม่วาย .. ลืมตัวเมื่อไหร่ ก็เผลอคิดจนได้
1 เรื่อง 2 เรื่อง 3 เรื่อง ... แม่งก็วนเวียนกะกูอยู่นั่น
เหนื่อยแล้ว .. ไม่อยากสู้กับความรู้สึกบ้าบอนี่อีกแล้ว
ถ้าบอกว่า ... ขี้ กับ น้ำตา .. มันออกมาจากคนละรู
แต่เหมือนกันตรงไหน รู้มั้ย ..... มันเหมือนกันตรงที่
เวลายิ่งกลั้น .. มันก็ยิ่งจะไหลออกมาให้ได้
.
.
.
จบดีนี่กู ? ..... เฮ่อ ...
.
.
วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552
:: ลู ก เ ล ว ๆ แ ล ะ แ ม่ ::
.
.
2 วันนี้ขยันวุ้ย ... อัพบล็อคทุกวัน
ความจริงเซิร์ฟเวอร์ที่บริษัทเจ๊ง ... ดึงยอดขายไม่ได้
ดีแต่เดินไป เดินมาเป็น messenger
เหมือนจะ ... ว่ า ง ง ง ง ง ง
แต่เมื่อไหร่ที่ทุกอย่างกลับเป็นปกติ
งานประมาณแสนแปดที่ต้องอั้นไว้ก่อนหน้านี้
มันก็จะทะลักทะล้นพรั่งพรูออกมาในคราวเดียว
งานทุกงานจะต้องได้รับคำตอบว่า
" กูจะทำทุกอย่างได้หมดภายในชั่วโมงนี้คับ "
เตรียมตัวตายได้ โ อ ซิ โ ม่ ..
.
.
.
บทความต่อไปนี้เอามาจาก Forward Mail นะคับ
ไม่รู้ใครเขียน .. แต่กระแทกจิตสำนึกได้ดี
อ่านเถอะนะคับ ไม่เสียเวลานั่งนินทาเท่าไหร่หรอก
.
.
ฉันเดินชนคนแปลกหน้า
ฉันเอ่ยขอโทษ ... ไม่ตั้งใจ
เขาตอบกลับด้วยความสุขภาพ
ขออภัย .. ผมไม่ทันเห็นคุณ
เราต่างสุภาพ ถ้อยทีถ้อยอาศัย
แสดงน้ำใจ ... แม้ไม่รู้จักกัน
ที่บ้าน .. เย็นวันนั้น
ขณะที่ฉันสาละวนวุ่นวายกับภาชนะต่าง ๆ
เตรียมอาหารมื้อเย็นสำหรับครอบครัว
ไม่รู้ตัว และไม่ทันระวัง
ฉันหันกลับมาชนลูกสาวตัวน้อยที่แอบมายืนด้านหลัง
มันแรงจนทำให้เธอล้มลงกระแทกพื้น
" อย่ามายืนเกะกะ " .. ฉันตวาดใส่
ลูกสาวเดินจากไป ... หัวใจเธอปวดร้าว
กว่าที่ฉันจะรู้ตัว .. ว่าทำอะไรลงไป
ก็เมื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวตอนกลางวัน
ฉันได้ยินเสียงกระซิบตำหนิจากเบื้องลึกของหัวใจ
กับคนแปลกหน้า เจ้าสุภาพอ่อนน้อมได้
แต่ลูกรักชิดใกล้ ทำไมทำได้ลงคอ
ดูที่พื้นครัวสิ ..
ดอกไม้หลากสีกระจายเกลื่อนกลาด
ลูกอุตส่าห์ลำบากเก็บมาหวังให้เจ้าแปลกใจ
น้ำตาลูกไหล ... เหตุใดแม่ไม่เห็น
ฉันเพิ่งรู้สึก ..
จึงค่อยย่องไปคุกเข่าข้างเตียงลูก
"ตื่นเถิดคนดี .. ดอกไม้นี่ลูกเก็บมาให้แม่หรือ"
ลูกตอบ "ใช่ค่ะ หนูเห็นดอกไม้บาน สวยงามเหมือนคุณแม่"
"หนูรู้ว่าแม่ต้องชอบ โดยเฉพาะดอกสีน้ำเงิน"
ฉันตื้นตันใจนัก ... น้ำตาไหลไม่รู้ตัว
"ลูกรัก แม่ขอโทษจริง ๆ ที่เอ็ดหนู๋"
"แม่จ๋าไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่โกรธหรอก"
.. " เ พ ร า ะ ห นู รั ก แ ม่ " ..
.
.
.
หากเย็นวันนั้น .....
ลูกสาวเกิดวิ่งออกจากบ้านจนเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตไป
สิ่งที่เธอตวาดลูกจะเป็นคำสุดท้ายที่ฝังในจิตใจตลอดกาล
รู้ไหม คำว่า FAMILY ย่อมาจาก
Father And Mother I Love You
.
.
เพราะว่าตอนนี้ยังไม่สายเกินไป
ในการมอบความรักให้ขณะที่คน ๆ นั้นยังมีโอกาสรับรู้
ผมเชื่อว่าวันแม่นี้ ... ของขวัญที่มีค่าที่สุด
คือการกระทำที่แสดงถึง "ความรัก" จริง ๆ
ผมรู้ว่าแม่ไม่ต้องการของขวัญราคาแพง ไม่ต้องการเงิน
ไม่ต้องการดอกมะลิ ไม่ต้องการการ์ดกับข้อความซึ้ง ๆ
สิ่งใดในโลกก็ไม่เทียบเท่าความรักที่ลูก ๆ ตอบแทนด้วยหัวใจ
พรุ่งนี้วันแม่แล้วนะ ..
อีกไม่กี่ปีก็จะ 30 ขวบอยู่รอมร่อแล้ว
ยังไม่เคยสร้างความภูมิใจอะไรให้แม่เลยซักอย่าง
ยังเป็นลูกดื้อ รั้น หัวแข็ง .. แล้วก็เอาแต่ใจตัวเองตลอดมา
ยิ่งช่วงที่เป็นวัยรุ่น (แต่ตอนนี้ยังไม่แก่นะ)
ใช้ชีวิตเป็นเหี้ยซะมากกว่าที่จะเป็นคน
เรื่องร้ายแรงที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่
แม่บอกว่ารู้สึกแฟนลูก ... ไม่ได้รักลูกแม่ซักนิด
และแฟนในตอนนั้นก็เข้ากับแม่ไม่ได้เอาซะเลย
แม่ว่าแม่ไม่ชอบ และบอกให้เลิก .. ตามนิสัยตรงไปตรงมาของท่าน
ลูกไม่เชื่อ ... ทำใจไม่ได้ และคิดว่าแม่อคติ
เลยตัดสินใจ .. ออกจากบ้าน
แม่ร้องไห้แทบขาดใจ ในวันที่ลูกกำลังจะก้าวขาออกไป
แต่ก็ไม่สนใจ ... ลูกเสียใจ ลูกกำลังโกรธแม่
พอออกมาแล้ว ก็ใช้ชีวิตอย่างที่เคยต้องการ
ไม่มีกฎ ไม่มีเสียงบ่น ไม่โดนด่า
อยู่กับครอบครัวของแฟน ดูแลเค้า ดูแลทุกอย่าง
ดูแลไปถึง พ่อ แม่ ของแฟน ..
ทุกคนเห็นว่า เราเป็นเด็กดี .. เรียบร้อย
มีสัมมาคารวะ รู้จักดูแลคนโน้น ดูแลคนนี้
ยังทำหน้าภูมิใจ เวลามีคนบอกว่า
"ดูแลพ่อแม่แฟนดี ราวกับเป็นพ่อแม่ตัวเอง"
ไม่เคยหันมาคิด ยังไม่เคยสำนึก ... จนกระทั่งวันนึง
เมื่อแฟนเราเจอคนที่เค้ารักมากกว่า
พ่อ แม่ ของแฟน ที่เราเคยเอาใจอย่างดี ช่วยอะไรไม่ได้ซักนิด
ไม่ว่าหน้าไหน ก็บังคับให้ใครรักใครไม่ได้
เราเห็นคนอื่นดีกว่าพ่อแม่ .. สุดท้าย
คน ๆ นั้นก็เห็นคนอื่นดีกว่าเราเหมือนกัน
วันที่เดินออกจากบ้านเค้า .. เหมือนถูกถีบหัวส่ง
ไม่มีคำร่ำลา ไม่มีความอาลัย ไม่มีความผูกพัน
เดินออกมา อย่างไร้จุดหมาย
ซมซาน ลากตาปูด ๆ ที่ผ่านการร้องไห้ข้ามเดือน ... กลับมาหาแม่
สภาพของแม่ในวันที่ลูกถึงบ้าน
ยังร้องไห้แทบขาดใจ ต่างกันนิดหน่อยตรงที่
ภายใต้รอยน้ำตาแม่ มีรอยยิ้ม .....
.
.
.
ผ่านไปหลายปีแล้ว ..
แต่บทเรียนนั้นกลายเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต
ถึงแม่จะให้อภัย แล้วขอให้เริ่มใหม่
ความรู้สึกผิดมันก็ยังไม่หายไปอยู่ดี
จนถึงทุกวันนี้ ...
ที่ใคร ๆ คิดว่าผมเป็นคนดี .. มันไม่จริงซักนิด
ผมทำร้ายคน 3 คนที่รักผมมากที่สุด
คนที่ให้อภัยไม่ว่าจะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่ากี่หน
คนที่ไม่เคยเบื่อโทรศัพท์ที่โทรไปแล้วน้ำตาจุกปากพูดไม่ได้
ผมกรีดหัวใจคนที่โอบกอดผมทุกครั้งที่ผมแบกน้ำตาไปหาท่าน
ถ้าไม่มีแม่ ก็จะไม่มีลูกคนนี้
ถ้าแม่ไม่รัก ... ก็จะไม่มีใครรักเด็กที่ทำตัวเลว ๆ แบบนี้
ถ้าแม่ไม่คอยโอบกอด .. ลูกจะไม่มีวันรู้สึกถึงความอบอุ่นจากการถูกปกป้อง
ถ้าแม่ไม่สนับสนุน ... ลูกจะไม่มีวันรู้เลยว่า ดีเท่าไหร่
ที่เราหันกลับไปแล้ว .. เรามองเห็นพวกท่านยืนอยู่ข้างหลัง มองเราอยู่เสมอ
คิดมาตลอดว่าอยากทำอะไรเพื่อท่านบ้าง
แต่ไม่มีปัญญาทำมันสำเร็จซักอย่างเลยตอนนี้
ไม่มีหน้าจะบอกว่า รักแม่ อย่างโง้นอย่างงี้
เพราะไม่เคยทำให้ท่านรู้สึกได้ว่า ลูกคนนี้รักแม่ ซักหน
อายตัวเองที่สุดที่เมื่อก่อน ... เคยตั้งเงื่อนไขลม ๆ แล้ง ๆ ว่า
ถ้าหากจะมีแฟน คน ๆ นั้นต้องรักพ่อแม่เราก่อน
ทำไมถึงบอกว่ามันเป็นเงื่อนไขลม ๆ แล้ง ๆ
ก็ในเมื่อ .....
ลูกแท้ ๆ ยังไม่รักพ่อแม่ตัวเองเลย
แล้วจะหวัง ... ให้ลูกคนอื่นเค้ามารักได้ยังไง
.
.
เขียนบล็อควันนี้ น้ำตาไหลตลอดทาง อาจจะยาวไปหน่อยนะ
ความรู้สึกหลาย ๆ อย่างมากมายเกินกว่าจะเขียนลงไปได้หมด
เสียใจ เจ็บใจ อึดอัดใจ ... ทรมาน ทุกอย่าง
เสียดายเวลาที่ผ่านมา .. เสียดายที่มันเอากลับมารีไซเคิลไม่ได้อีก
พ่อแม่แก่ลงทุกวัน ๆ แต่ลูกคนนี้ก็ยังไม่เอาไหน
ไม่รู้เมื่อไหร่ .. จะทำให้พวกท่านยิ้มอย่างภูมิใจบ้าง
ทุกครั้งที่มอง ที่ได้ยินเสียงแม่ น้ำตามันจะไหล
แก่จนป่านนี้แล้ว .. ลูกยังตอบแทนอะไรไม่ได้เลยซักนิด
พรุ่งนี้บอกแม่ว่าจะกลับบ้าน ...
แต่รู้สึกว่าตัวเอง .. ไม่มีคุณค่าพอที่จะพูดว่ารักแม่
ไม่มีอะไรคู่ควรกับคำนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว .....
น่าทุเรศสิ้นดี้ ...
.
.
.
2 วันนี้ขยันวุ้ย ... อัพบล็อคทุกวัน
ความจริงเซิร์ฟเวอร์ที่บริษัทเจ๊ง ... ดึงยอดขายไม่ได้
ดีแต่เดินไป เดินมาเป็น messenger
เหมือนจะ ... ว่ า ง ง ง ง ง ง
แต่เมื่อไหร่ที่ทุกอย่างกลับเป็นปกติ
งานประมาณแสนแปดที่ต้องอั้นไว้ก่อนหน้านี้
มันก็จะทะลักทะล้นพรั่งพรูออกมาในคราวเดียว
งานทุกงานจะต้องได้รับคำตอบว่า
" กูจะทำทุกอย่างได้หมดภายในชั่วโมงนี้คับ "
เตรียมตัวตายได้ โ อ ซิ โ ม่ ..
.
.
.
บทความต่อไปนี้เอามาจาก Forward Mail นะคับ
ไม่รู้ใครเขียน .. แต่กระแทกจิตสำนึกได้ดี
อ่านเถอะนะคับ ไม่เสียเวลานั่งนินทาเท่าไหร่หรอก
.
.
ฉันเดินชนคนแปลกหน้า
ฉันเอ่ยขอโทษ ... ไม่ตั้งใจ
เขาตอบกลับด้วยความสุขภาพ
ขออภัย .. ผมไม่ทันเห็นคุณ
เราต่างสุภาพ ถ้อยทีถ้อยอาศัย
แสดงน้ำใจ ... แม้ไม่รู้จักกัน
ที่บ้าน .. เย็นวันนั้น
ขณะที่ฉันสาละวนวุ่นวายกับภาชนะต่าง ๆ
เตรียมอาหารมื้อเย็นสำหรับครอบครัว
ไม่รู้ตัว และไม่ทันระวัง
ฉันหันกลับมาชนลูกสาวตัวน้อยที่แอบมายืนด้านหลัง
มันแรงจนทำให้เธอล้มลงกระแทกพื้น
" อย่ามายืนเกะกะ " .. ฉันตวาดใส่
ลูกสาวเดินจากไป ... หัวใจเธอปวดร้าว
กว่าที่ฉันจะรู้ตัว .. ว่าทำอะไรลงไป
ก็เมื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวตอนกลางวัน
ฉันได้ยินเสียงกระซิบตำหนิจากเบื้องลึกของหัวใจ
กับคนแปลกหน้า เจ้าสุภาพอ่อนน้อมได้
แต่ลูกรักชิดใกล้ ทำไมทำได้ลงคอ
ดูที่พื้นครัวสิ ..
ดอกไม้หลากสีกระจายเกลื่อนกลาด
ลูกอุตส่าห์ลำบากเก็บมาหวังให้เจ้าแปลกใจ
น้ำตาลูกไหล ... เหตุใดแม่ไม่เห็น
ฉันเพิ่งรู้สึก ..
จึงค่อยย่องไปคุกเข่าข้างเตียงลูก
"ตื่นเถิดคนดี .. ดอกไม้นี่ลูกเก็บมาให้แม่หรือ"
ลูกตอบ "ใช่ค่ะ หนูเห็นดอกไม้บาน สวยงามเหมือนคุณแม่"
"หนูรู้ว่าแม่ต้องชอบ โดยเฉพาะดอกสีน้ำเงิน"
ฉันตื้นตันใจนัก ... น้ำตาไหลไม่รู้ตัว
"ลูกรัก แม่ขอโทษจริง ๆ ที่เอ็ดหนู๋"
"แม่จ๋าไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่โกรธหรอก"
.. " เ พ ร า ะ ห นู รั ก แ ม่ " ..
.
.
.
หากเย็นวันนั้น .....
ลูกสาวเกิดวิ่งออกจากบ้านจนเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตไป
สิ่งที่เธอตวาดลูกจะเป็นคำสุดท้ายที่ฝังในจิตใจตลอดกาล
รู้ไหม คำว่า FAMILY ย่อมาจาก
Father And Mother I Love You
.
.
เพราะว่าตอนนี้ยังไม่สายเกินไป
ในการมอบความรักให้ขณะที่คน ๆ นั้นยังมีโอกาสรับรู้
ผมเชื่อว่าวันแม่นี้ ... ของขวัญที่มีค่าที่สุด
คือการกระทำที่แสดงถึง "ความรัก" จริง ๆ
ผมรู้ว่าแม่ไม่ต้องการของขวัญราคาแพง ไม่ต้องการเงิน
ไม่ต้องการดอกมะลิ ไม่ต้องการการ์ดกับข้อความซึ้ง ๆ
สิ่งใดในโลกก็ไม่เทียบเท่าความรักที่ลูก ๆ ตอบแทนด้วยหัวใจ
พรุ่งนี้วันแม่แล้วนะ ..
อีกไม่กี่ปีก็จะ 30 ขวบอยู่รอมร่อแล้ว
ยังไม่เคยสร้างความภูมิใจอะไรให้แม่เลยซักอย่าง
ยังเป็นลูกดื้อ รั้น หัวแข็ง .. แล้วก็เอาแต่ใจตัวเองตลอดมา
ยิ่งช่วงที่เป็นวัยรุ่น (แต่ตอนนี้ยังไม่แก่นะ)
ใช้ชีวิตเป็นเหี้ยซะมากกว่าที่จะเป็นคน
เรื่องร้ายแรงที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่
แม่บอกว่ารู้สึกแฟนลูก ... ไม่ได้รักลูกแม่ซักนิด
และแฟนในตอนนั้นก็เข้ากับแม่ไม่ได้เอาซะเลย
แม่ว่าแม่ไม่ชอบ และบอกให้เลิก .. ตามนิสัยตรงไปตรงมาของท่าน
ลูกไม่เชื่อ ... ทำใจไม่ได้ และคิดว่าแม่อคติ
เลยตัดสินใจ .. ออกจากบ้าน
แม่ร้องไห้แทบขาดใจ ในวันที่ลูกกำลังจะก้าวขาออกไป
แต่ก็ไม่สนใจ ... ลูกเสียใจ ลูกกำลังโกรธแม่
พอออกมาแล้ว ก็ใช้ชีวิตอย่างที่เคยต้องการ
ไม่มีกฎ ไม่มีเสียงบ่น ไม่โดนด่า
อยู่กับครอบครัวของแฟน ดูแลเค้า ดูแลทุกอย่าง
ดูแลไปถึง พ่อ แม่ ของแฟน ..
ทุกคนเห็นว่า เราเป็นเด็กดี .. เรียบร้อย
มีสัมมาคารวะ รู้จักดูแลคนโน้น ดูแลคนนี้
ยังทำหน้าภูมิใจ เวลามีคนบอกว่า
"ดูแลพ่อแม่แฟนดี ราวกับเป็นพ่อแม่ตัวเอง"
ไม่เคยหันมาคิด ยังไม่เคยสำนึก ... จนกระทั่งวันนึง
เมื่อแฟนเราเจอคนที่เค้ารักมากกว่า
พ่อ แม่ ของแฟน ที่เราเคยเอาใจอย่างดี ช่วยอะไรไม่ได้ซักนิด
ไม่ว่าหน้าไหน ก็บังคับให้ใครรักใครไม่ได้
เราเห็นคนอื่นดีกว่าพ่อแม่ .. สุดท้าย
คน ๆ นั้นก็เห็นคนอื่นดีกว่าเราเหมือนกัน
วันที่เดินออกจากบ้านเค้า .. เหมือนถูกถีบหัวส่ง
ไม่มีคำร่ำลา ไม่มีความอาลัย ไม่มีความผูกพัน
เดินออกมา อย่างไร้จุดหมาย
ซมซาน ลากตาปูด ๆ ที่ผ่านการร้องไห้ข้ามเดือน ... กลับมาหาแม่
สภาพของแม่ในวันที่ลูกถึงบ้าน
ยังร้องไห้แทบขาดใจ ต่างกันนิดหน่อยตรงที่
ภายใต้รอยน้ำตาแม่ มีรอยยิ้ม .....
.
.
.
ผ่านไปหลายปีแล้ว ..
แต่บทเรียนนั้นกลายเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต
ถึงแม่จะให้อภัย แล้วขอให้เริ่มใหม่
ความรู้สึกผิดมันก็ยังไม่หายไปอยู่ดี
จนถึงทุกวันนี้ ...
ที่ใคร ๆ คิดว่าผมเป็นคนดี .. มันไม่จริงซักนิด
ผมทำร้ายคน 3 คนที่รักผมมากที่สุด
คนที่ให้อภัยไม่ว่าจะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่ากี่หน
คนที่ไม่เคยเบื่อโทรศัพท์ที่โทรไปแล้วน้ำตาจุกปากพูดไม่ได้
ผมกรีดหัวใจคนที่โอบกอดผมทุกครั้งที่ผมแบกน้ำตาไปหาท่าน
ถ้าไม่มีแม่ ก็จะไม่มีลูกคนนี้
ถ้าแม่ไม่รัก ... ก็จะไม่มีใครรักเด็กที่ทำตัวเลว ๆ แบบนี้
ถ้าแม่ไม่คอยโอบกอด .. ลูกจะไม่มีวันรู้สึกถึงความอบอุ่นจากการถูกปกป้อง
ถ้าแม่ไม่สนับสนุน ... ลูกจะไม่มีวันรู้เลยว่า ดีเท่าไหร่
ที่เราหันกลับไปแล้ว .. เรามองเห็นพวกท่านยืนอยู่ข้างหลัง มองเราอยู่เสมอ
คิดมาตลอดว่าอยากทำอะไรเพื่อท่านบ้าง
แต่ไม่มีปัญญาทำมันสำเร็จซักอย่างเลยตอนนี้
ไม่มีหน้าจะบอกว่า รักแม่ อย่างโง้นอย่างงี้
เพราะไม่เคยทำให้ท่านรู้สึกได้ว่า ลูกคนนี้รักแม่ ซักหน
อายตัวเองที่สุดที่เมื่อก่อน ... เคยตั้งเงื่อนไขลม ๆ แล้ง ๆ ว่า
ถ้าหากจะมีแฟน คน ๆ นั้นต้องรักพ่อแม่เราก่อน
ทำไมถึงบอกว่ามันเป็นเงื่อนไขลม ๆ แล้ง ๆ
ก็ในเมื่อ .....
ลูกแท้ ๆ ยังไม่รักพ่อแม่ตัวเองเลย
แล้วจะหวัง ... ให้ลูกคนอื่นเค้ามารักได้ยังไง
.
.
เขียนบล็อควันนี้ น้ำตาไหลตลอดทาง อาจจะยาวไปหน่อยนะ
ความรู้สึกหลาย ๆ อย่างมากมายเกินกว่าจะเขียนลงไปได้หมด
เสียใจ เจ็บใจ อึดอัดใจ ... ทรมาน ทุกอย่าง
เสียดายเวลาที่ผ่านมา .. เสียดายที่มันเอากลับมารีไซเคิลไม่ได้อีก
พ่อแม่แก่ลงทุกวัน ๆ แต่ลูกคนนี้ก็ยังไม่เอาไหน
ไม่รู้เมื่อไหร่ .. จะทำให้พวกท่านยิ้มอย่างภูมิใจบ้าง
ทุกครั้งที่มอง ที่ได้ยินเสียงแม่ น้ำตามันจะไหล
แก่จนป่านนี้แล้ว .. ลูกยังตอบแทนอะไรไม่ได้เลยซักนิด
พรุ่งนี้บอกแม่ว่าจะกลับบ้าน ...
แต่รู้สึกว่าตัวเอง .. ไม่มีคุณค่าพอที่จะพูดว่ารักแม่
ไม่มีอะไรคู่ควรกับคำนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว .....
น่าทุเรศสิ้นดี้ ...
.
.
วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552
:: มี ลู ก ป ล า แ ล๊ ว ว ว ::
.
.
วันนี้พยายามแขม่วอารมณ์ดีดไว้สุดไส้ติ่ง
ขอซักวันที่ไม่มีเรื่องขุ่นข้องหมองตับได้แมะ ?
ไม่อะไรก็ต้องอะไรสักก้อนนึง
ห่าเหว ..... ไร้สาระ ถุย !!!
.
.
.
เปลี่ยนเรื่อง .....
ปลาหางนกยูงที่บ้านออกลูกด้วยแหละ
ซื้อมาเมื่อวาน .. ตะง้านมาก
เพิ่งคุยกะไอ้อ้วนวันศุกร์ อ้วนอยากเลี้ยงปลา
วันเสาร์ก็ไปซื้อตู้มาใส่น้ำรอ ... ยังไม่มีปลา
วันอาทิตย์แอบไปช้อนในอ่างบัวที่ รร อ้วน
ไม่สวย .. เททิ้งที่เดิม ไปซื้อเอาดีก่า
มีอยู่ตัวนึงพุงกลม ๆ ตอนแรกนึกว่ามันอ้วน
แต่พี่คนขายบอกว่า มันท้อง .. แปลว่า ในท้องเค้ามีลูกปลา
ตอนขี่รถกลับก็คุยกะอ้วนว่า
เออ ... เราลืมถามเนอะ ว่ามันจะออกลูกเมื่อไหร่
ถึงบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมง .. มีลูกปลาในตู้เฉยเลย
ตกกะใจ 50% ...
กรี๊ดกร๊าดกัน 2 คนผัวเมีย .. ไม่เคยเห็นลูกปลาในระยะหัวโขกตู้
ตอนหัวค่ำไปวิ่งเล่นปากคลอง ... พอกลับมา
โอ้โห้ .. ปลาตัวจิ๊ดเต็มเลย !!!
สรุปว่าจากที่ซื้อมา 4 ตัว .. ไป ๆ มา ๆ
มันเพ่นพ่านกันในตู้เป็นสิบ ... แล้วตัวแม่มันก็ยังท้องป่องอยู่
เข้าใจเอาเองว่าเดี๋ยวมันต้องออกมาอีก
สรุปว่าเมื่อเช้า มันออกมาทั้งหมดนับได้ 15 ตัวกว่า ๆ
(กว่า ๆ เพราะว่าในตู้มีต้นไม้ มีบ้าน ไม่รุ้ว่ามันแอบในบ้านมั่งรึเปล่า?)
ดีใจปานถูกลอตเตอรี่ .. แต่ก็ไม่ได้เอะใจ
มาถึงที่ทำงาน นั่งทำงานไป ก็เลยเปิดเวบดู
วิธีเลี้ยงปลาหางนกยูง ... อ่านไป อ่านไป
"โดยธรรมชาติ .. ปลาหางนกยูงเป็นปลาที่กินลูกตัวเองอยู่แล้ว .."
O_o !!!!!!!!!!!!
แดรกลูกตัวเอ๊ง !!!!!!!!!!!!!
เจร๊ดเขร้ !!! ... ไอ้ปลาไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ !!!!
พักเที่ยงแจ้นกลับไปบ้าน เร็วได้เท่าที่ขาสั้น ๆ จะอำนวย
(ลืมกุญแจบ้านอีกตะหาก ..... แมร่ง)
ถึงบ้านจัดแจงรีบแยกไอ้ตัวโตทั้งหมดออก
.. สิริรวมเหลือผู้รอดชีวิตน้อย ๆ 8 ตัวถ้วน ..
ozimo status : ขนปุย ... สะเทือนใจ __"__
.
.
จากที่ตั้งใจว่าจะเลี้ยงแค่ตู้เล็ก ๆ ... คงต้องเปลี่ยนซะแล้ว
โตไว ๆ นะ .. ปลาน้อย ..
ปล. แล้ว ..... กุจะตั้งชื่อยังไงครบทุกตัวเนี่ย ???
.
.
.
.
วันนี้พยายามแขม่วอารมณ์ดีดไว้สุดไส้ติ่ง
ขอซักวันที่ไม่มีเรื่องขุ่นข้องหมองตับได้แมะ ?
ไม่อะไรก็ต้องอะไรสักก้อนนึง
ห่าเหว ..... ไร้สาระ ถุย !!!
.
.
.
เปลี่ยนเรื่อง .....
ปลาหางนกยูงที่บ้านออกลูกด้วยแหละ
ซื้อมาเมื่อวาน .. ตะง้านมาก
เพิ่งคุยกะไอ้อ้วนวันศุกร์ อ้วนอยากเลี้ยงปลา
วันเสาร์ก็ไปซื้อตู้มาใส่น้ำรอ ... ยังไม่มีปลา
วันอาทิตย์แอบไปช้อนในอ่างบัวที่ รร อ้วน
ไม่สวย .. เททิ้งที่เดิม ไปซื้อเอาดีก่า
มีอยู่ตัวนึงพุงกลม ๆ ตอนแรกนึกว่ามันอ้วน
แต่พี่คนขายบอกว่า มันท้อง .. แปลว่า ในท้องเค้ามีลูกปลา
ตอนขี่รถกลับก็คุยกะอ้วนว่า
เออ ... เราลืมถามเนอะ ว่ามันจะออกลูกเมื่อไหร่
ถึงบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมง .. มีลูกปลาในตู้เฉยเลย
ตกกะใจ 50% ...
กรี๊ดกร๊าดกัน 2 คนผัวเมีย .. ไม่เคยเห็นลูกปลาในระยะหัวโขกตู้
ตอนหัวค่ำไปวิ่งเล่นปากคลอง ... พอกลับมา
โอ้โห้ .. ปลาตัวจิ๊ดเต็มเลย !!!
สรุปว่าจากที่ซื้อมา 4 ตัว .. ไป ๆ มา ๆ
มันเพ่นพ่านกันในตู้เป็นสิบ ... แล้วตัวแม่มันก็ยังท้องป่องอยู่
เข้าใจเอาเองว่าเดี๋ยวมันต้องออกมาอีก
สรุปว่าเมื่อเช้า มันออกมาทั้งหมดนับได้ 15 ตัวกว่า ๆ
(กว่า ๆ เพราะว่าในตู้มีต้นไม้ มีบ้าน ไม่รุ้ว่ามันแอบในบ้านมั่งรึเปล่า?)
ดีใจปานถูกลอตเตอรี่ .. แต่ก็ไม่ได้เอะใจ
มาถึงที่ทำงาน นั่งทำงานไป ก็เลยเปิดเวบดู
วิธีเลี้ยงปลาหางนกยูง ... อ่านไป อ่านไป
"โดยธรรมชาติ .. ปลาหางนกยูงเป็นปลาที่กินลูกตัวเองอยู่แล้ว .."
O_o !!!!!!!!!!!!
แดรกลูกตัวเอ๊ง !!!!!!!!!!!!!
เจร๊ดเขร้ !!! ... ไอ้ปลาไม่มีจรรยาบรรณแพทย์ !!!!
พักเที่ยงแจ้นกลับไปบ้าน เร็วได้เท่าที่ขาสั้น ๆ จะอำนวย
(ลืมกุญแจบ้านอีกตะหาก ..... แมร่ง)
ถึงบ้านจัดแจงรีบแยกไอ้ตัวโตทั้งหมดออก
.. สิริรวมเหลือผู้รอดชีวิตน้อย ๆ 8 ตัวถ้วน ..
ozimo status : ขนปุย ... สะเทือนใจ __"__
.
.
จากที่ตั้งใจว่าจะเลี้ยงแค่ตู้เล็ก ๆ ... คงต้องเปลี่ยนซะแล้ว
โตไว ๆ นะ .. ปลาน้อย ..
ปล. แล้ว ..... กุจะตั้งชื่อยังไงครบทุกตัวเนี่ย ???
.
.
.
วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552
:: ช อ บ ๆ ::
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)