วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2552

" Happy Birthday .. My whole world "

.

.

เป็นหวัด ...

มึน งง ตาลาย ปวดหัว เป็นไข้ น้ำมูก เจ็บคอ

แต่มีเรื่องสำคัญต้องมาอัพ

เพราะว่าพรุ่งนี้ .... เป็นวันสำคัญของลูกมู๋

ที่ตั้งใจเข้ามาอัพวันนี้ที่มันยังไม่ถึงวัน

แต่เพราะว่าพรุ่งนี้ .....

ตะเองเปิดคอมมาจะได้เจอคำอวยพรของเค้าเลยไง

อยากให้พรวันเกิดไอ้อ้วนเป็นคนแรก ...

- H a p p y B I r t h d a y คับ -

.

.

ขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งความสมหวัง

ขอให้ลูกมู๋สุขภาพแข็งแรง

ขอให้สิ่งดี ๆ ที่คิด ที่วางแผนไว้ ... สำเร็จด้วยดีที่สุด

ขอให้ขี้หงุดหงิดน้อยลง มีรอยยิ้มมากขึ้น .....

ขอให้ไม่มีคนปองร้าย ...

ขอให้ถูกหวยบ่อย ๆ .....

ขอให้มีแต่ความสุข ความเจริญผ่านเข้ามาในชีวิต

ขอให้เป็นคุณแม่ที่น่ารักของลูก ๆ ... เป็นภรรยาที่น่ารักของผม

.... ตลอดไปนะคับ ....

เพี้ยงงงงงงงงงงงงงง !!!!!!!!!

.

.

.

โตขึ้นอีกปีแล้วนะ ..

คงไม่พูดมากเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา

เพราะถ้าให้พูดก็คงจะเป็นเรื่องเดิม ๆ น่ะแหละ

เราผ่านอะไรมาด้วยกันก็เยอะแล้ว

ม๊าคงรู้ว่า ... ถ้าอ้าปากขึ้นมา เค้าจะพูดอะไรบ้าง

เพราะฉะนั้น .... ไม่พูดน่ะดีก่า

ได้อวยพรวันเกิดให้ตะเองเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

ยังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนตอนครั้งแรกอยู่เลย

ปีนี้ ..... ไม่มีปัญญาทำอะไรให้มากมาย

เหมือนที่คนอื่นเค้าทำกัน ...

แต่รักที่มีให้มดส์ตลอดเวลา .. รับรองว่าไม่แพ้คนอื่นแน่

อยากให้ตะเองมีความสุขทุกวัน

อยากเห็นรอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจที่มีความสุข

วันเกิดปีนี้ เริ่มต้นอีกทีนะ

ตั้งใจอธิษฐานแต่สิ่งดี ๆ .... คิดแต่เรื่องดี ๆ เข้าไว้

แล้วความดี จะตอบแทนให้ตะเองมีแต่ความสุข

..... ขอให้พระคุ้มครองผู้หญิงที่ผมรักที่สุดคับ .....

.

.

โอรักมดส์นะ ...

ได้ยินจนเบื่อแล้วใช่มั้ย ???

กี่ปีแล้วที่พูดมา ....

และก็ยังจะพูดต่อไป ...

- ผม รัก คุณ คับ -

.

.

.

.

.


" Happy Birthday นะคะ "

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2552

:: ใ ค ร ::

.

.

หัวหน้าไม่อยู่ ... พวกนู๋ร่าเริ๊งงงงง

อิอิ

วันนี้ทั้งผู้จัดการ รองผู้จัดการ ทั่นหัวหน้า

ไม่มีใครอยู่ซ๊ากกกกกคน

ชื่นใจ๊ ชื่นใจ .... ทำงานอย่างมีความสุข

เพราะไม่มีใครมานั่งจ้องอยู่ข้างหลัง

รู้สึกปลอดโปร่งจนงานทั้งกองที่กะไว้ว่า 2 วันก็คงไม่เสร็จ ...

สำเร็จลุล่วงอย่างเรียบร้อยได้ในบัดดล

.
.
แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจ ... เดี๋ยวก็มีมาอีก

ช่างเถอะตอนนี้หัวกะลังโล่ง

มะกี๊ข้าง ๆ ตึกเหมือนมีไฟไหม้

เสียงโหวกเหวกโวยวายกันลั่น

ไป ๆ มา ๆ ก็ไหม้จริง ๆ .... แต่ว่าไหม้กองขยะ

ไอ้ห่า ... ร้องซะกุตกใจ ใส่รองเท้าผิดคู่เลย

ใส่เท้าหนังข้างนึง .. ใส่แตะข้างนึง โคตรเท่ __*__

.

.

.

ตั้งแต่วันที่เกิด .. จนใช้อายุล่วงเลยมาถึงตอนนี้

มีคนเดินผ่านหน้าเราไปกี่คน ..... จำได้หมดมั้ย

แล้วเรารู้จักเค้าดีมากแค่ไหน ...

มีกี่คนที่เราสามารถตอบได้ทุกอย่างว่า

เค้าเป็นยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

ใส่กางเกงในยี่ห้อไหน ชอบสายรัดถุงน่องสีอะไร

รองเท้าเหม็นเล็บขบมั้ย .... ในกระเป๋ามีตังค์กี่บาท

เวลาแปรงฟัน ชอบกินข้าวไปด้วยรึเปล่า

เมื่อวานไปเที่ยวกับใคร พรุ่งนี้จะทำอะไร

ใครก็ได้ ..... อะไรก็ได้ ยังไงก็ได้

มีใครรู้เรื่องของคนอื่นเกิน 10 คนมั่งคับ ยกมือให้ดูหน่อย .......

.

.

อืม ....... เรื่องคนอื่นนี่ .. ถนัดนัก ..... ( โอ๊ะ ... )

หุหุ .... ล้อเล่งน๊า .....

แค่จะโยงเข้าเรื่องเอง ...

ดูเป็นคนดีจะตาย .... เอาใจใส่ทุกคนเท่ากัน

เพราะว่าคนเราส่วนเยอะนี่แปลก

หลาย ๆ คนรู้เรื่องคนอื่นดีไปหมด ยิ่งเรื่องคนดัง

ดาราคนนั้น คนโน้น คนนี้ ......

ใครจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ กับใคร ...

รู้กระทั่งเป็นตาปลาที่ตีนกี่เม็ด

เรื่องซุบซิบนี่ขายดีเป็นเททิ้ง อย่าให้ได้เห็น

โดยเฉพาะเรื่องคาว ๆ นี่ .... ถึงขั้นรวมเล่ม

เป็นท็อปเซลเลอร์กันเลยทีเดียว

.

.

.

แล้วเคยรู้เรื่องอะไร รอบ ๆ ตัวเองบ้าง

เรื่องของคนในครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ ชอบอะไร

วันนี้ท่านทานข้าวเช้ารึเปล่า ....

น้องชายชอบผู้หญิงรึเปล่า ... น้องสาวมีแฟนเป็นผู้ชายมั้ย

สามีเครียดเรื่องอะไรอยู่ .... ภรรยาอยู่บ้านชอบทำอะไร

ซื้อของขวัญวันเกิดให้คนในครอบครัว

แล้วรู้มั้ย ..... ว่าเค้าชอบ หรืออยากได้อะไร

.........

บางทีเราก็สนใจอะไรไกลตัวไปจนลืมเรื่องง่าย ๆ

เกรงใจใครต่อใครจนลืมไปว่าจริง ๆ แล้ว

ไอ้คนที่สำคัญกับชีวิตเรา ... มันอยู่ติดกันนี่แหละ

บางทีก็เผลอทำร้ายจิตใจคนที่รักเรา

เพียงเพราะ ..... มารยาทสังคม

ถ้าสังคมที่เป็นอยู่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับคนภายนอก

มากกว่าคนที่ใช้กว่าครึ่งชีวิตอยู่ด้วยกัน

ทำไมไม่ให้มันมาหาเลี้ยงซะเลยดีมั้ย?

เราให้เกียรติคนที่ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า กุเกลียดถั่วงอก

แต่เราไม่มีความเกรงใจให้ .....

กับคนที่คอยเขี่ยถั่วงอกออกจากชามก๋วยเตี๋ยวให้เรา

มนุษย์นี่คิดไรซับซ้อน ... กลับหัวกลับทางไปหมด

.. เข้าใจยากจริง .....

.

.

แค่รู้สึกขัดใจว่าทำไม ...

คนมอบแต่สิ่งดี ๆ ให้คนภายนอก

ให้เกียรติ ให้คำพูดดี ๆ ให้ความเกรงใจ ให้ความเคารพ

เพียงเพื่อจะผูกมิตรเท่านั้น ....

แต่เราแสดงทุกอย่างที่เป็นมุมมืด ...

กับคนที่ใช้นอกเวลางานอยู่ข้าง ๆ เราตลอดเวลา

เราทำให้คนข้าง ๆ รู้สึกแย่ .. ในขณะที่ทำให้ใครก็ไม่รู้ดีใจชิบเป๋ง

เวลาที่เราใกล้จะตายคุณคิดว่าใครที่จะมานั่งจับมือร้องไห้อยู่ข้างคุณ

คนที่คุณยื่นด้านสว่างให้ .... หรือคนที่อยู่ในเงาของคุณเรื่อยมา

.

.

.

ปล. เมื่อวานไปไหว้พระมาแหละ ..

ปล. อ้วนกวักมือเรียกเค้า แล้วก็จับมือเค้าไว้ก่อนหลับตาอธิษฐานไรไม่รุ

ปล. สิ่งที่ม๊าขอพรอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิดไว้ก็ได้

ปล. แต่มันอุ่นไปถึงหัวใจ ... ตอนที่ตะเองทำแบบนั้น โอชอบแหละ

ปล. รักมะม๊าจัง ..... ^_________________^

.

.

วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

:: ข้างทาง ::

.

.

ฮ่าย เอวฟรี่บาดี้ !!!!!!!!!!!

กระแดะ ... ไปหยั่งง๊านนนนแหละ

มีงานทำเยอะแยะ .. แต่มีคนอยากอ่าน

สนองนี้ดกันจัดไป ..... วะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า !!!

.

.

.

กรุเป็นบ้าไรเนี่ย .... __*__

เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีฝ่า

วันนี้จะเขียน ..... เพราะมีอารมณ์จะเขียน

ก็แค่ดีใจ ที่มองเห็นทาง

ก็แค่ดีใจ ที่หาอะไร ๆ เจอ ( มั้ง )

ก็แค่ดีใจ ... ที่วันนี้ยังมีลมหายใจ

เวลาที่เหลือมีอีกแค่ไหนไม่รู้

สิ่งที่เรารู้สึกได้มีเพียงแต่วันเวลาที่มันผ่านไป

ถ้ามัวแต่นั่งนับมันไปเรื่อย ๆ ....

เราก็คงไม่เหลืออะไรดี ๆ ในอดีตเอาไว้ทรงจำ

ปัจจุบัน เป็นผลจากการวางรากฐานในอดีต

ถ้าอยากทำอนาคตให้ดี ๆ ... ก็ต้องเริ่มจากรากฐานในปัจจุบัน

แล้วรากฐานในปัจจุบัน ..... จะเริ่มจากตรงไหน

.. ทุกอย่าง ..... เริ่มต้นจากตัวเองทั้งสิ้น

คุณค่าในตัวเอง ... ไม่ต้องเอาไปฝากไว้กับใคร

จุดหมายปลายทาง ไม่ได้สำคัญไปกว่า

การเก็บเกี่ยวสารอาหารให้ชีวิตระหว่างการเดินทาง

การตั้งหน้าตั้งตาเดินไปให้สุดโดยทิ้งทุกสิ่ง

บางทีมันก็ทำให้เราลืมความตั้งใจในตอนแรกไปซะอย่างงั้น

วันนี้ลองกวาดตามองรอบ ๆ ตัว ..... สูดหายใจลึก ๆ

ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจช้า ๆ ..... รู้สึกดีมั้ย ?

.

.

ถ้าผมตื่นเช้า ... อาบน้ำแต่งตัวมุ่งแต่จะไปให้ถึงออฟฟิศ

เช้านี้ ..... คงไม่ได้สัมผัสไออุ่นของกันและกัน

ที่กว่าจะแกะตูดออกจากเตียงมาได้ ...

เราก็กลิ้งไปกลิ้งมากันอยู่นานสองนาน

ถ้าผมขึ้นรถ .... ใจจดจ่ออยู่เพียงแค่จุดหมาย

ผมคงไม่ได้ไม่มีกะใจ ซึมซับสัมผัสจากลมเย็น ๆ ที่สาดผ่านหน้าต่าง

สูดลมเย็น ๆ ให้เต็มปอด ( มีกลิ่นควันปนนิด ๆ จะได้รู้ว่าอยู่ในเมือง )

ความน่ารักโคตร ๆ ของ น้องตัวเล็ก ๆ ที่พยายามเหลือเกิน

กับการนัวเนียไล่หอมแก้มคุณแม่ และบังคับให้คุณแม่จุ๊บที่หน้าผาก

ก่อนที่จะประคับประคอง จูงมือเล็ก ๆ นั้นลงจากรถ

เก็บเกี่ยวความสุข จากข้างทางให้เป็นกำไรชีวิต

ความสุขไม่ได้หายไปไหน ... แต่เราต่างหากที่เลือกจะมองข้ามมันไป

.

.

วันนี้เลือกแล้วที่จะมีความสุข

อะไรที่มันไม่ดี ... ก็ทิ้งมันไปบ้าง

การเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้โดยเหมาเอาว่ายิ่งมีเยอะยิ่งดี

มันก็ไม่ได้ทำให้การเดินทางของเราไปถึงจุดหมายเร็วขึ้น

พอใจกับอะไรที่เป็นอยู่ .... หนึ่งสมองสองมือ

มันก็ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่น้อยเกินไป

ไปแบบตัวเบา ๆ อาจจะทำให้เราคล่องตัวกว่าเยอะ

เอาไว้อยากได้อะไรเพิ่มเติม ..... ค่อยไปหาเอาข้างทางแล้วกัน

.

.

.

ปล. วันนี้ออกจากบ้านแต่เช้า .... ม๊าลืมจุ๊บ ..... เคือง

ปล. วันนี้รีบวางหูทำไม ... ยังพูดไม่จบ ..... เคือง

ปล. ไอ้อ้วนลืมกินยาตอนเช้า ... ไม่รู้แอบกินน้ำเย็นอีกรึเปล่า ..... เคือง

ปล. ถ้าเย็นนี้กลับมาแล้วจุ๊บคืน 10 เท่า .... โอจะหายเคือง

^________________________________^

.

.

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2552

" เ ย อ ะ "

.

.

เรื่องแรก

อากาศหนาวจนไม่อยากจะขยับไปไหนเลยนะ

นั่งรถเมล์มาทำงาน ... ต้องนั่งติดหน้าต่าง

ล ม ตี ห น้ า จ น ช า .....

.

.

.

เรื่องที่สอง

รำคาญ ชิ ห า ย ..... ผม บน หัว เนี่ย

..... แมร่งขัดใจกุตลอด .....

สระผมตอนเช้า .. ผมยังไม่ทันแห้งแล้วใส่กันน็อค

เส้นผมก็เลยหนีบราบติดหนังหัวรวมเป็นตัวเดียวกัน

หัวลีบ หัวแหลม ... แล้วกลายเป็นหัวหลิม

ต้องนั่งรถเมล์โดยพยายามเอาใบหูขนานกับหน้าต่างให้มากที่สุด

( ถ้าเลยขอบหน้าต่างมีโอกาสเสี่ยงที่ใบหูจะไม่ได้เดินทางถึงที่ทำงานด้วย )

ยอมทนเอาหนังหน้าด้าน ๆ รับลม

หวังจะชดเชยการไดร์ผมด้วยลมธรรมชาติ

( และนี่คือเหตุผลว่าทำไมต้องนั่งติดหน้าต่าง )

แต่แมร่งไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย .......

ลงจากรถเมล์หัวยังหลิมเหมือนเดิม ...

แถมแบะเป็น 2 ทวีปซ้ายขวาอีกตะหาก

ตอนนี้ที่กลางกบาลเลยมีกิ๊บดำ 2 ตัว

กำลังพยายามเจรจาให้มันมารวมเป็นกระจุกเดียวกัน

แมร่งเอ๊ย .....

.

.

เรื่องที่สาม

แมลงสาบในออฟฟิศ

จะเยอะไปไหน ????????

ถ้าตีแมลงสาบ 1 ตัวได้เงิน 1 บาท

ถึงวันนี้คงได้เงินหลายพันแล้ว .....

มันขนทั้งโครตตระกูลเข้ายึดครองโดยถาวร

100 ไบก้อนก็ทำอะไรมันไม่ได้

เสาร์-อาทิตย์มีการปิดออฟฟิศเผื่อฉีดยาไล่หนูและแมลงสาบ

วันจันทร์มาทำงาน ....

ก็ยังเห็นมันพาครอบครัวมาสวนสนาม

วิ่งไปมาตามโต๊ะ ซีพียู เครื่องแฟกซ์

และชั่วร้ายที่สุด ....... มันขึ้นขาผม

ไต่เข้าไปในขากางเกง .... สยอง และ สยิว ...

เคยเอาแก้วพลาสติกครอบไว้ แล้วเอาหนังสือหนัก ๆ ทับ

กะว่ามันออกมาหาอาหารไม่ได้แน่ ๆ

ทิ้งไว้เย็นวันศุกร์ ... วันจันทร์กลับมาดู

..... สาบแมร่งไม่ต๊าย !!!!! .....

.

.

เรื่องที่สี่

เศร้าที่สุดตอนนี้คงเป็นเรื่องนี้

ไม่รู้เป็นอะไรไปแล้ว .....

การถูกบังคับให้ทำคือคำว่าทรมานแล้ว

การไม่สามารถทำในสิ่งที่รักได้ก็ทรมานไม่น้อยกว่ากัน

ตอนนี้ ... ผมไม่สามารถสร้างงานของตัวเองได้เลย

ไม่มีพลัง ไม่มีประกาย ไม่มีแรงบันดาลใจ

ไม่มีแม้ความสามารถที่จะเขียนเรื่องดี ๆ ซักเรื่อง

มีแต่แรงกดดัน .... กับจินตนาการที่มืดสนิท

นานพอสมควรที่เป็นแบบนี้ ... ส่วนสาเหตุ

คงเป็นเพราะ .... ความเป็นตัวเอง ที่ไม่เข้าตาคนอื่นน่ะแหละ

มันเป็นยังไง ... ก็เป็นแบบที่

ไม่ว่าจะทำอะไร .... มันก็ผิด ทุกอย่าง มันผิดหมด

ไม่ว่าจะคิดก่อนทำ ... หรือทำโดยที่ไม่ได้คิด

.... โ ด น ด่ า เ ท่ า กั น ....

เรียกว่า ด่า อาจจะแรง บางทีก็แค่ ว่า แล้ว กัน

แต่มันทำให้ประสาทส่วนสั่งการสะดุดไปแล้วคับ

พอจะลงมือทำอะไรซักอย่าง ...

อาการ .. “ ปอดแหก ” มันก็จะเริ่มทำงานทันที

กลัวโน่น กลัวนี่ กลัวไม่ดี กลัวไม่ได้

กลัวพลาด กลัวมันทุกอย่างที่ขวางหน้า .....

กลายเป็นคนที่ ... ทำอะไรไม่สุด ....

หว่างที่ลงมือ ก็จะมีความไม่มั่นใจแทรกอยู่

มันสั่น มันเกร็ง มันไม่มั่นใจ เหมือนคนทำอะไรไม่เป็น

ความมั่นใจ ..... มันไม่มีอีกแล้ว

กลายเป็นคนที่ ... “ ไ ม่ ก ล้ า ”

ทุกอย่าง ..... จึงต้องหยุดไว้แค่ “ คิด ”

ขอให้ความรู้สึกแบบนี้ผ่านไปซักที

กุ .... สงสารตัวเองจัง

.

.

เรื่องที่ห้า

วันนี้ ... วันสำคัญ ของ คนสำคัญ อีกคนนึง

Happy Birthday นะ .. น้องชายของผม

พ่อกับแม่มีลูก 2 คน ผม กับ น้อง

อายุที่ห่างกันเกือบ 9 ปี .....

ทำให้ผมมีโอกาสได้เลี้ยงน้องมาตั้งแต่เด็ก

เค้าเป็นเด็กน่ารัก พูดเพราะ มีสัมมาคารวะ

ไม่เคยดื้อ ไม่เคยเถียงพี่ ( แต่มันเถียงพ่อแม่ )

เป็นเด็กมีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว และรู้จักเสียสละ

เมื่อก่อนสนิทกันมาก กินด้วยกัน นอนด้วยกัน

คนที่คอยสอน คอยให้คำปรึกษาทุก ๆ อย่าง .. ก็คือพี่

แต่ไม่รู้ว่าไปพลาดเอาช่วงไหน ... ตอนนี้

น้องเปลี่ยนไปเป็น ค น ล่ ะ ตั ว ....

จากที่เคยเป็นเด็กว่าง่าย หัวอ่อน ... ทุกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว

วันเกิดปีนี้ .. ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

คุ้มครอง ... และปกป้องน้องชายคนเดียวของผม

ขอให้เค้ากลับมาเป็นคนดีของพ่อแม่ ของพี่

เป็นลูกที่เป็นความหวังของพ่อแม่

เป็นน้อง ที่เชื่อฟัง และอะไร อะไร ก็พี่มัน ..... เหมือนเดิม
.
.
ปล. วันนี้ ไม่มีปล.

.
.

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

อย่าคาดหวัง

.

.

หากคาดหวัง ... จงเตรียมใจรับความผิดหวัง

เมื่อผิดหวัง .. ต้องเรียนรู้จากมัน

เมื่อเรียนรู้จากมัน ... แล้วจงนำไปใช้

เมื่อนำไปใช้ .. จงสะสมเป็นประสบการณ์

หลาย ๆ ประสบการณ์ ... จะทำให้เราเลิกโง่

เมื่อหายโง่ .. ก็จะไม่เกิดการคาดหวัง

และเมื่อไม่คาดหวัง ..... เมื่อนั้น

.. เราก็จะไม่ผิดหวัง ..

.

.

.

.

.

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

ถึ ง ค น 2 ค น* ที่ รั ก ที่ สุ ด

.

.

บล็อคหน้าแรกของปี

ไม่มีอะไรจะเขียนเท่าไหร่เพราะว่าอารมณ์ไม่ค่อยดี

วันนี้ที่บริษัทมีฟังธรรมรับปีใหม่

แล้วก็กินข้าวเที่ยงด้วยกันทั้งบริษัท

ตอนบ่ายมีประชุม ... แต่ก็โดดประชุม

เพราะต้องเคลียร์งานทั้งกองให้เสร็จ

กับทำสรุปผลงานของทีมในปีที่ผ่านมา

เตรียมเข้าประชุมในทีมอาทิตย์หน้า

.....

ทั้ง " เบื่อ " ทั้ง " เหนื่อย "

ตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว .. สาเหตุก็เดิม ๆ

เบื่อพวกเห็นแก่ตัว ...

เบื่อพวกที่เห็นแก่ความสุขของตัวเอง

เบื่อคนที่อยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์

เบื่อเรื่องซ้ำซาก ....

ความจริงตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนดีกว่าใครเค้าเท่าไหร่

แต่ก็ไม่เคยเห็นแก่ตัวจนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น

อะไรยอมได้ ก็ยอม ... ปัญหามันไม่ได้เกิดด้วยตัวเอง

ไอ้พวกมนุษย์นี่แหละ .. ตัวดี

พูดเหมือนตัวเองไม่ใช่คน ... เนอะ

อาจจะห่างไกลความเป็นคนเข้าทุกทีแล้วก็ได้

ทุกวันนี้ใช้ชีวิตไป โดยไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่

แค่อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด

อยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ .. ให้มีความสุขกับทุกอย่างรอบตัว

แต่ทุกครั้ง ... ที่เจอเหตุการณ์ประเภทนี้

ที่กูต้องผจญกับสันดานเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนของเพื่อนร่วมโลก

อยากจะทิ้งเวลาที่เหลือซะเดี๋ยวนั้นเลย

ให้ไอ้พวกเห็นแก่ได้มันอยู่ด้วยกันไป .. ให้มันฆ่ากันตายไปเอง

แล้วกุค่อยกลับมาเกิดใหม่ก็ได้

ถ้าอยากรู้ว่ากุรู้สึกยังไง ..... เอาไว้

วันที่พวกคุณมรึงมาอยู่ในสถานการณ์ที่กุรู้สึก

ขอให้วันนั้นมาไว ๆ ละกัน

.

.

.

บางที .. คนเราก็ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่า

ใครซักคนที่เข้าใจ ... และพร้อมที่จะอยู่ข้าง ๆ กัน

ตอนนี้ มีเรื่องกังวลเพิ่มขึ้นอีก

พ่อไม่ค่อยสบาย .... ยังไม่รู้แน่ว่าเป็นอะไร

รู้แต่ว่าหลังพ่อยอก แล้วก็เดินไม่ได้

ต้องนอน หรือนั่งเฉย ๆ แล้วก็นวดเพื่อคลายเส้น

ทั้งชีวิตที่ผ่านมา เป็นคนที่ไม่ถูกกับพ่อเลย

อาจเป็นเพราะว่า ใช้ชีวิตคนเดียวตั้งแต่เด็ก

เพราะว่าเกิดในช่วงที่พ่อแม่กำลังสร้างฐานะ

เลยจำเป็นต้องเอาผมเข้าโรงเรียนประจำ

ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นอนุบาลด้วยซ้ำ .....

โตมาท่ามกลางหมู่เพื่อนฝูง ครู และพี่เลี้ยง

ปีแรกที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมบ้านเดียวกับพ่อแม่อย่างสมบูรณ์

ความรู้สึกโดดเดี่ยวก็เลี้ยงตัวเองมาจนโตทันกัน

ในที่สุด .. เราก็เข้ากันไม่ได้ซักที ..

อาจจะเป็นเพราะ รูปแบบการใช้ชีวิตของลูก

มันแตกต่าง และห่างกันนานเกินไป

ผมมีโลกของผม ..... มากเกินกว่าที่พ่อแม่จะเข้าใจ

สุดท้าย .. ก็ตัดสินใจพาตัวเองแยกออกมาจนได้

แต่ก็ไม่ได้แยกขาดกันนะ ...

มีความรู้สึกว่า นาน ๆ ที กลับบ้าน

จะไม่ค่อยทะเลาะกัน .. เหมือนตอนอยู่ด้วยกัน

มันก็แค่ความน้อยเนื้อต่ำใจที่ว่า

ลูกคนนี้ ... ไม่ว่าจะคิด จะเลือก หรือจะทำอะไร

ก็ต้องเป็นสิ่งที่ท่านไม่ชอบ ไม่ปลื้ม ซะทุกครั้งไป

เป็นอย่างนี้ ..... มานานเท่าไหร่แล้วนะ

.

.

แต่ก็ไม่โทษใคร

ผมเองก็ทำให้ท่านผิดหวัง หลายครั้งหลายคราว

กับการที่มัวแต่ห่วงคนอื่น ... จนลืมนึกถึงตัวเอง

ห่วงครอบครัวคนอื่น .. จนลืมครอบครัวตัวเอง

ดูแลเอาใจใส่พ่อแม่คนอื่นราวกับเป็นพ่อแม่บังเกิดเกล้า ...

.. แต่แทบจะไม่ได้ดูแล ..

คน 2 คนที่มอบชีวิตให้กับเราเพื่อให้ไปเอาใจใส่คนพวกนั้น

เรารักคนอื่นจนถวายชีวิตให้ได้ ...

เพื่อที่จะพบว่า .. คนพวกนั้นไม่ได้เห็นเราเป็นคนด้วยซ้ำ

มอบความจริงใจที่สุด ...

เพื่อให้ใครหลาย ๆ คนนั้นนำไปส่งต่อให้กับคนอื่น

เราให้ทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะหามาได้กับใครอีกหลายคน ..

เพื่อให้สิ่งเหล่านั้นย้อนกลับมาแทงข้างหลังได้อย่างเจ็บปวดที่สุด

และที่น่าอายที่สุด .. คือการเบียดเบียนพ่อแม่

ให้ท่านเจ็บปวดทางใจ ... อย่างไม่น่าให้อภัย

.

.

แต่วันที่รู้ว่าพ่อไม่สบาย

แค่คำว่า " พ่อล้ม ... ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล "

ทุกสิ่งมืดไปหมด .. นึกอะไรไม่ออก

เป็นห่วงพ่อที่สุด ...

ถึงที่ผ่านมาจะทะเลาะกันทุกครั้ง

ที่อยู่ด้วยกันนานเกิน 2 วัน .....

แต่ก็รักพ่อเหมือนเดิม ...

นิสัยพ่อขี้น้อยใจ .. นิสัยลูกก็ได้มาจากพ่อเหมือนกัน

หน้าตาไม่ค่อยเหมือนพ่อ ... แต่คิ้วได้พ่อมาเต็ม ๆ

ทำอะไรไม่ค่อยจะถูกจังหวะ ถูกเวลา .. ก็เหมือนพ่อ

เรื่องสมอง เรื่องความจำ ... ถอดพ่อมาแต่ไม่หมด

ยังเก่งสู้พ่อไม่ได้ .... แต่เรื่องรั้นนี่แบบเดียวกันเป๊ะ

โดนแม่ด่าประจำ .....

.

.

.

ในชีวิตนี้ .. ลูกดูแลแต่คนอื่นมามากเกินไป

พ่อกับแม่ก็รู้ ... แต่ไม่เคยโกรธและไม่เคยพูด

ทั้ง ๆ ที่ลูกกลัวว่าพ่อกับแม่จะน้อยใจ .....

แต่ก็ไม่เคยทำอะไรได้อย่างที่ต้องการซักที

ยิ่งทำ ... ยิ่งโดนด่า

แต่ยังดื้อรั้นที่จะทำนะ

ถึงจะร้องไห้บ่อย .... แต่ก็ไม่เคยโกรธ

เพราะลูกรู้ว่าคนที่ดีที่สุด 2 คนของลูกอยู่ที่ไหน

จะไม่รอให้ถึงวันที่สายเกินไปแล้วค่อยมาเอาใจใส่

จะไม่มีวันทำให้ตัวเองเสียใจทีหลังเหมือนที่เคยเรียนรู้มา

มีพ่อ 1 คน มีแม่ 1 คน ..... ถ้าใครไม่รักด้วยกะเรา ก็ช่างหัวเขา

.

.

ถ้าเขียนต่อไป ... น้ำตาแตกแน่ ๆ

ต่อไปนี้ .. จะทำให้ดีที่สุด

ลูกอาจจะรับปากไม่ได้ ว่าดีที่สุด คือแค่ไหน

อีกไม่กี่เดือน สิ่งที่ลูกตั้งใจจะต้องประสบความสำเร็จ

ถึงวันนั้น ... ลูกจะทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจบ้าง

.

.

ครั้งนี้ ... ขอให้ความดีที่เคยทำให้คนอื่น

ส่งผลคืนให้พ่อกับแม่มีสุขภาพแข็งแรง

พ้นจากโรค ภัย ไข้ เจ็บ ทุกประการด้วยนะคับ

" รัก พ่อ กะ แม่ ที่ สุด "

.

.

.

.

.